ปชช.ค้านใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กตอบโต้ทางการเมือง
จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นตอบโต้กัน ของนักการเมือง ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดย น.ส.ปวีณา เรโอแนล พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านพระโขนง แสดงความคิดเห็นว่า ไม่เห็นด้วย ในการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กกับคำพูดตอบโต้ทางการเมือง เพราะอาจจะพิ่มความขัดแย้ง และนำพาให้สถานการณ์ปะทุขึ้นในลำดับต่อไปได้ ในขณะที่ นายวัฒนดนัย ธนัญชัย เจ้าหน้าที่โครงการ Childwatch Bkk เห็นว่า หากนักการเมืองยังใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก ตอบโต้กันไปมาเช่นนี้ ประเทศจะไม่สามารถเดินหน้าสร้างความปรองดองได้อย่างแน่นอน ปชช.แนะนักการเมืองเปิดเวที แทนโซเชียลเน็ตเวิร์กจากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ต่อกรณี การตอบโต้ทางการเมือง ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดย น.ส.รัชฎา ผลทอง เจ้าหน้าที่สถาบันสุขภาพแห่งหนึ่ง เห็นว่า การใช้ช่องทางของโซเชียลเน็ตเวิร์กตอบโต้การทางเมือง ก็ไม่ต่างจากการตอบโต้ หรือมีการแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนแต่อย่างใด ซึ่งทั้ง 2 ช่องทาง ก็จะนำไปสู่ความแตกแยก ไม่ส่งเสริมให้เกิดความปรองดองให้เกิดขึ้น ขณะที่ น.ส.รัชฎา เสนอว่า ควรจัดให้มีการเปิดเวที ถกหารือ และดีเบตความคิดเห็นเป็นรายประเด็นไป จะสร้างสรรค์กว่าการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในการเคลื่อนไหวหรือตอบโต้กันของนักการเมือง คนวงเวียนใหญ่ หนุนนักการเมือง ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กจากกรณีที่นักการเมือง ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก อาทิ Twitter และ FaceBook เพื่อแสดงความคิดเห็น และโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งจากการสอบถามพนักงานบริษัทเอกชนที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นประจำ ย่านวงเวียนใหญ่ ได้มีความเห็นว่า เห็นด้วย ถ้านักการเมืองใช้ Twitter และ FaceBook ชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้ทราบข้อเท็จจริง จากผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ทีมงานมาจัดทำ โดยใช้ชื่อนักการเมือง เพราะจะทำให้ได้ข้อมูลที่ผิดพลาด อาจจะทำให้เกิดความสับสน อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่า ความปรองดองในประเทศ ยังเกิดขึ้นยาก ถ้าแต่ละฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ของตัวเอง และนักการเมือง ยังไม่เลิกการทุจริตคอร์รัปชั่น