เสนาะเผยทักษิณ หนุนแก้รายมาตราย้ำไม่หวนนายกฯ

นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปอวยพรวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ฮ่องกง พร้อมพูดคุยกันถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หากไม่แก้ก็ไม่เป็นไร ให้รัฐบาลทำงานต่อไป และให้รัฐบาลช่วยกันคิดว่า จะทำอย่างไรต่อ ในเมื่อการแก้รายมาตราเป็นทางออก นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวว่า จะไม่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะอยู่อย่างนี้สบายกว่า พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึง นายกรัฐมนตรี ด้วยว่า ทุกฝ่ายล้วนชื่นชม และเชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ครบเทอม 'วรวัจน์' ปัด 'ทักษิณ' สั่งลุยพรบ.ปรองดองแทนแก้รธน. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ยังไม่ทราบกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้าเรื่องร่างพระราชบัญญัติปรองดอง แทนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคจะเป็นอย่างไร ต้องรอคำวินิจฉัยกลาง  และคำวินิจฉัยส่วนตัว ของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพื่อมาหารือกันว่า หากจะแก้ไขรายมาตราได้ก็จะแก้บางส่วนเท่าที่จำเป็นก่อน เพื่อให้สามารถเดินไปได้ "คือเราก็จะพยามดูว่า ถ้าแก้ไขรายมาตราพอไปได้ เราก็จะลองแก้ไขดูบางส่วนก่อน อาจจะไม่ได้ทำครั้งเดียวหมด ก็ทำเฉพาะเท่าที่จำเป็นก่อน เพื่อให้ทั้งหมดเดินหน้าไปได้" นายวรวัจน์ กล่าวนายวรวัจน์ ยังเปิดเผยว่า กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย จะหารือกันอย่างละเอียด หลังได้รับคำวินิจฉัยแล้ว เพื่อวางแผนใหม่ ว่าหากจะแก้รายมาตราก็ต้องวางมาตราที่จะร่าง หากทำประชามติก็อาจมีปัญหาเรื่องจำนวนคน ซึ่งทั้งหมดมีรายละเอียดอีกมาก 'วิรัตน์'พร้อมหนุนแก้รายมาตราหากชัดเจนนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของพรรค เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การใช้สิทธิ์ตามมาตรา 291 แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยรัฐสภาไม่ใช่สภาร่างรัฐธรรมนูญ ถือว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้ ก็ขอให้ระบุประเด็นให้ชัดว่าแก้เรื่องใด ด้วยเหตุผลใด พรรคก็จะไม่ขัดข้อง พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า เห็นด้วย หากจะแก้มาตรา 237 วรรค 2 เรื่องยุบพรรค แต่หากจะแก้มาตรา 309 เรื่องการนิรโทษกรรม ก็ยืนยันที่จะไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นการล้มล้างระบบนิติรัฐนิติธรรม"การใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ 291 คือแก้รายมาตรา โดยรัฐสภา ไม่ใช่ ส.ส.ร. ก็ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิ์ของเสียงข้างมาก" นายวิรัตน์ กล่าวส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้าร่างพระราชบัญญัติปรองดอง แทนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายวิรัตน์เชื่อว่า ไปไม่รอดแน่ ถ้ายังยุบศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ขวางการปรองดอง แต่ร่างนี้ไม่ได้ทำเพื่อปรองดอง แต่ทำเพื่อนิรโทษกรรมเท่านั้น 'สามารถ'ปัด'ทักษิณ'สั่งลุยร่างปรองดองนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยืนยันกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจะแก้รัฐธรรมนูญ ว่าจะแก้เป็นรายมาตรา หรือ ทำเป็นประชามติ เพราะยังไม่มีการประชุมกัน ส่วนกรณีการแก้ไข มาตรา 165 (2) เรื่อง ผู้มาออกเสียงประชามติ ส่วนตัวมองว่า หากแก้จริงสาธารณะคงเกิดข้อสงสัย จึงไม่เชื่อว่า พรรคจะเห็นด้วยในการแก้มาตรานี้ พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งให้พรรค เปลี่ยนมาเดินหน้าร่างพระราชบัญญัติปรองดอง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่มายุ่งเรื่องนี้ "ซึ่งกฎหมายสำคัญ อย่างเช่น รัฐธรรมนูญ สมมติต้องทำประชามติ ถามว่าจำเป็นต้องให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ทั้งประเทศส่วนใหญ่ต้องมาใช้สิทธิ์ ซึ่งอย่างนั้นก็ถูกต้องแล้ว" นายสามารถ กล่าวนายสามารถ ยังเปิดเผยว่า พรุ่งนี้จะร่วมประชุมกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค แล้วจะเสนอให้หยุดการให้สัมภาษณ์ความคิดเห็นส่วนตัวที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดด้วย ปธ.วิปวุฒิ เผย ส.ว. ส่วนใหญ่ หนุนประชามติ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในวันพุธที่ 25 กรกฎาคมนี้ วิปวุฒิสภา จะนัดหารือกัน เพื่อพิจารณาแนวคิดในการแก้ไขรัธฐรรมนูญ โดย ส.ว. ในกลุ่ม 76 ส.ส. และ ส.ว. ที่ร่วมลงชื่อ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนใหญ่เห็นตรงกันที่จะให้ทำประชามติ เพื่อถามประชาชน และส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะถอยไปยกร่างใหม่ เพราะไม่มีเหตุผล "ผมว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเลย ที่จะถอยแล้วไปร่างใหม่รายมาตรา ซึ่งมันไม่มีเหตุและผลที่จะทำอย่างนั้น" นายนิคม กล่าวส่วนกรณีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งให้ผลักดันร่างพระราชบัญญัติปรองดองแทนนั้น นายนิคม เชื่อว่า การผลักดันเรื่องนี้อาจจะเหนื่อย เพราะคงไม่ง่ายที่จะผ่านในชั้นวุฒิสภา เพราะทุกคนรู้ดีกว่าเสนอมาแล้วจะสร้างความขัดแย้ง จึงควรทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน พิมลปฏิเสธข่าวเผยคำวินิจฉัยกลางไม่ทัน26กค. นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าว ศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะเผยคำวินิฉัยกลางไม่ทัน วันที่ 26 กรกฎาคม เนื่องจากมีการเพิ่มข้อเท็จจริง พร้อมชี้แจงว่า ศาลไม่น่าจะมีการเพิ่มข้อเท็จจริง เนื่องจากถูกเผยแพร่ไปแล้ว เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดังนั้น การประชุมในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ จึงเป็นเพียงการตรวจสอบเนื้อหาอีกครั้ง ก่อนจะมีการเปิดเผยคำวินิจฉัยกลาง ซึ่งยืนยัน ศาลรัฐธรรมนูญ จะประกาศภายในสัปดาห์นี้ ตามกรอบ 15 วัน อย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่แน่ชัดได้ ทั้งนี้ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ ยังกล่าวอีกว่า กระแสข่าววันเวลาเปิดเผยคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ อาจเป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อมวลชนเท่านั้น เพราะวันเวลาที่ชัดเจนนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่แจ้งรายละเอียดในเรื่องนี้แต่อย่างใด