ศาลเยาวชนเรียกสาวซีวิคพบพร้อมคู่ความบ่ายนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดประชุมเพื่อสรุปข้อมูลเยียวยาก่อนจะมีคำพิพากษา ในคดีสาวซีวิคซิ่งชนรถตู้โดยสาร โดยวันนี้ถือว่าเป็นการประชุมร่วมกันครั้งแรกระหว่างญาติผู้เสียหายและจำเลย ซึ่งญาติผู้เสียหายเดินทางมาศาลเกือบครบ ขณะที่บางครอบครัวไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัดและไม่ได้รับหมายเรียก
ขณะที่เยาวชนอายุ 18 ปี ผู้เป็นจำเลย ได้เดินทางมาพร้อมบิดาและมารดา ก่อนหลบผู้สื่อข่าวเข้ามาภายในอาคารทันที โดยใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตนาน 3 ชั่วโมง พร้อมนำพวงมาลัยมาขออโหสิกรรม และแสดงความเสียใจ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
ด้านนายจิรนิติ หะวานนท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการประชุมตามขั้นตอนของแผนการฟื้นฟูเยียวยาผู้เสียหาย ว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามหลัก พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย และฟื้นฟูจำเลย ซึ่งเป็นเยาวชนให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ เนื่องจากศาลเยาวชนไม่เพียงแต่จะใช้กฎหมายพิจารณา แต่จะต้องช่วยแก้ปัญหาให้กับสังคมด้วย
ส่วนระยะเวลาในการประชุมมาตรการเยียวยาจะยาวนานเพียงใดนั้นไม่สามารถระบุได้ ขึ้นอยู่กับบรรยากาศของการประชุมในวันนี้ ซึ่งหากตกลงกันไม่ได้ก็อาจขยายระยะเวลาการประชุมออกไปอีก แต่ถ้าหากผลการพูดคุยของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่สามารถนำไปสู่การกำหนดแผนฟื้นฟูเยียวยาได้ ก็จะส่งเรื่องกลับไปสู่องค์คณะ เพื่อให้มีคำพิพากษาต่อไป
ศาลเยาวชนนัดคู่ความคดีสาวซีวิค ชนรถตู้ ดับ 9 ศพ มาฟังบทสรุป โดยออกหมายเรียกให้สาวซีวิคมาพบด้วย ในวันนี้เวลา 13.00 น.
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด คดีสาวซีวิคซิ่งชนรถตู้โดยสารบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายและบาดเจ็บอีก 6 ราย เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ธันวาคม 2553 นั้น
ในวันนี้ เวลา 13.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้นัดประชุมเพื่อสรุปข้อมูลเยียวยาก่อนจะมีคำพิพากษา ภายหลังจากก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ศูนย์ให้คำปรึกษาแนะนำและประสานการประชุม เพื่อบำบัดฟื้นฟูเด็กเยาวชนและครอบครัว นัดหารือร่วมกับครอบครัวผู้เสียหายทั้งหมด ถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาตามกระบวนการพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีและครอบครัว พ.ศ.2553
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ศาลได้ออกหมายเรียกให้ เยาวชนอายุ 18 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ฐานขับรถยนต์โดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์มาพบ เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ด้วย