สุเมธเผยในหลวง-ราชินีทรงห่วงใต้ให้มีโครงการช่วย

สุเมธเผยในหลวง-ราชินีทรงห่วงใต้ให้มีโครงการช่วย

สุเมธเผยในหลวง-ราชินีทรงห่วงใต้ให้มีโครงการช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ คุณธรรมสร้างชาติ ที่ห้องประชุมใหญ่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.อ.ไมตรี โอสถหงษ์ เป็นประธาน ทั้งนี้ นายสุเมธ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการบรรยายถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยทุกที่ที่มีปัญหามาโดยตลอด ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุการณ์ และไม่เคยหยุดการดำเนินการโครงการต่างๆ พร้อมกันนี้ กล่าวว่า ทั้ง 2 พระองค์ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาลงไปช่วยแก้ไขปัญหาในส่วนหนึ่ง โดยเน้นโครงการสร้างอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นหลักอย่างไรก็ตาม นายสุเมธ ได้แสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นปัญหาที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน แต่ที่สำคัญต้องบูรณาการทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งความคิด กำลัง แนวทางทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ปัญหาทุกอย่างคงทุเลาลง นายกฯนำถกยุทธศาสตร์แก้ไฟใต้แล้วน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) แล้ว  ร่วมกับ 17 กระทรวง ในการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ว่า วันนี้มีทูตไทยประจำประเทศมาเลเซีย เข้าร่วมหารือด้วย โดยจะนำผลการประชุมไปชี้แจงและประสานงานกับประเทศมาเลเซีย เพื่อขอความร่วมมือในทุกด้านระหว่างกัน  พร้อมทั้งชี้แจงต่อกลุ่มประเทศมุสลิม ถึงขั้นตอนการปฏิบัติงานของรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ได้ให้กระทรวงการคลังตรวจสอบเส้นทางการเงินจากต่างประเทศ ที่เข้ามาเพื่อสนับสนุนการก่อการร้ายแล้ว โดยต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า  ไม่ทราบกรณีที่ 40 ผู้ก่อความไม่สงบ จะขอเข้ามอบตัวตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า จะไม่มีปัญหาในการทำงาน แม้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย โดยเชื่อว่า ส.ส. ที่ดูแลพื้นที่อยู่ ก็ต้องการให้เกิดความสงบ นายกฯยันไม่ใช้เคอร์ฟิวแก้ไฟใต้-เร่งแก้สงบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ว่า ที่ประชุมไม่มีการพิจารณาใช้มาตรการเคอร์ฟิวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเห็นว่าการใช้มาตรการดังกล่าวอาจจะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน โดยรัฐบาลเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดความสงบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้ง 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน ที่จะช่วยการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ อีกทั้งต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ในการทำงาน เพราะปัญหาภาคใต้ถือว่าเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน ส่วนการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนกลางแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ นั้น  นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันกับหน่วยงานเดิมที่มีอยู่แล้วแต่อย่างใด 'เฉลิม'ยันนายกฯไม่แก้โครงสร้างใต้ยินดี40โจรมอบตัวร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในการแก้ไขปัญหา ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพัฒนาการทำงาน โดย นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ 3 รองนายกฯ ทำงานร่วมกัน คือ ให้ตนเป็นผู้ดูแลในเรื่องของตำรวจ และให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ดูแลด้านการประสานงานเกี่ยวกับทหาร ส่วน นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น คอยดูแลประสานงานกับข้าราชการในส่วนอื่น ๆ โดย ร.ต.อ.เฉลิม เห็นว่า การแก้ไขความรุนแรงในภาคใต้นั้น จะต้องใช้การเจรจาในการแก้ไขปัญหานอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึง กรณีที่มีผู้ต้องหา ต้องการเข้ามามอบตัว เป็นจำนวน 40 คนนั้น ขณะนี้ยังต้องรอให้ฝ่ายความมั่นคง ตัดสินใจและพิจารณาดูความเหมาะสม ใน 3 ข้อเสนอ ที่ทางผู้ต้องหาเสนอมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ครอบครัวของผู้ต้องหา กว่า 100 คน ได้รอเข้าพบตนที่ทำเนียบรัฐบาล หากเรื่องดังกล่าวผ่านการพิจารณา  'ยุทธศักดิ์' ยัน ศูนย์แก้ไฟใต้ไม่แยกอำนาจกันพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ส่วนตัวไม่มีการเปลี่ยนแผนในการดูแลพื้นที่ภาคใต้ มีเพียงการเพิ่มหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อให้ทำงานในพื้นที่กระชับมากขึ้นและลดช่องว่างการทำงานเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะนำเข้าหารือกับ นายกรัฐมนตรี วันนี้  พร้อมยืนยัน การตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) ไม่ได้เป็นการแยกอำนาจของ ศอ.บต. และ กอ.รมน. แต่เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้ง 2 หน่วยงาน รวมถึง รองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 ฝ่าย เพื่อให้การทำงานมีความครอบคลุม เป็นไปตามยุทธศาสตร์ และเป็นทิศทางเดียวกัน โดยมี นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการโดยตรงเพียงผู้เดียว ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าว ยังมีหน้าที่ดูแลงบประมาณ ของ 17 กระทรวง ว่าทำการใช้จ่ายตรงตามเป้าหมายในการแก้ปัญหาพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ "ศปก.ศูนย์ประสานการปฏิบัติ จะเป็นตัวประสานงานให้ ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ทำงานร่วมกัน ไปด้วยกันตลอดเลย"  พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวนอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า เหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินนราธิวาส วานนี้ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ ซึ่งส่วนตัวมองว่า ทางกองทัพบกได้เพิ่มมาตรการป้องกันเพิ่มเติมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ส่วนความคืบหน้า การติดตามรถยนต์ต้องสงสัย ทั้ง 16 คัน ที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่นั้น ขณะนี้กำลังเร่งติดตามอยู่  ผบช.ภ.9 พร้อมทำตามนโยบายแก้ไฟใต้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในการประชุมวางยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ ตนไม่ได้นำเสนอแนวทางเข้าไป เพราะเป็นนโยบายของฝ่ายบริหาร เพียงแต่ว่า นโยบายออกมาอย่างไร ก็จะนำมาปรับใช้กับสถานการณ์พื้นที่และได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำมาปฏิบัติงาน สำหรับการดำเนินการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นั้น 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา ที่ติดชายแดน ได้ดำเนินการเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่อง ส่วน อ.หาดใหญ่ ที่เพิ่งถูกแจ้งเตือนนั้น ได้มีการสนธิกำลัง ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวม 3 ฝ่าย กว่า 300 นาย ตั้งจุดตรวจ 45 จุด รอบเมืองหาดใหญ่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังค้นพื้นที่เป้าหมายในเขต อ.หาดใหญ่ ทุกวัน นอกจากนี้ ยังตรวจยึดรถต้องสงสัย ทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ร่วม 100 คัน ไว้ตรวจสอบ ป้องกันการก่อเหตุคาร์บอมบ์อีกด้วย "พล.ร.อ.สุรศักดิ์" เผย กองทัพเรือ ห่วงไฟใต้พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึง สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ทางกองทัพเรือ ได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งทางกองทัพเรือ มีความห่วงใยและได้สั่งการให้กำลังพล ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ กล่าวว่า ขวัญกำลังใจของทหารยังเป็นปกติ และทหารเรือในพื้นที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเป็นอย่างดี ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ ทั้งนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวถึงการประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เป็นการประชุมเพื่อประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคงเป็นประโยชน์ เพราะจะทำให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันนอกจากนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวถึงเรื่องโผโยกย้ายนายทหารของกองทัพเรือ ว่าต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสมอย่างรอบคอบ และจะส่งโผโยกย้ายนายทหารของกองทัพเรือประมาณกลางเดือนนี้ สตช. เผย พร้อมดูแลศาลพรุ่งนี้ ไม่ประมาทมีแผนเผชิญเหตุแล้วพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า การนัดฟังคำสั่งคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวก รวม 24 คน ในวันพรุ่งนี้ ที่ ศาลอาญา เชื่อมั่นว่า จะไม่มีปัญหา โดยมีการเตรียมกำลังและแผนรักษาความปลอดภัยไว้พร้อมแล้ว รวมทั้ง แผนสำรองกรณีที่ แกนนำจะชี้นำกับมวลชนที่มาให้กำลังใจด้วยการเตรียมเครื่องขยายเสียง และกำหนดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะร่วมชี้แจง เพื่อควบคุมมวลชนให้อยู่ในเงื่อนไขของศาล ซึ่งจากการประสานกับแกนนำต่าง ๆ ยืนยันว่า การชุมนุมจะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีการปักหลักค้างคืน หรือ บุกรุกพื้นที่ศาล เพื่อความไม่ประมาท เจ้าหน้าที่ได้เตรียมทางออกฉุกเฉิน และแผนเผชิญต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ศาลได้เริ่มจัดพื้นที่เตรียมพร้อมไว้ ส่วนกำลังตำรวจนครบาล และกำลังตำรวจคอมมานโด ประมาณ 600 นาย จะเริ่มลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัย ทั้งภายในและภายนอกศาลตั้งแต่วันนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook