ศาลฎีกาพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ จำคุกหม่อมลูกปลา ผิดฐานทำร้ายร่างกาย"ท่านกบ"จนสิ้นชีพิตักษัย
เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ โดยให้จำคุกนางชลาศัย ยุคล หรือ หม่อมลูกปลา จำเลย เป็นเวลา 7 ปี แต่ให้การรับสารภาพ ลดโทษ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 4 ปี 8 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก ในความผิดฐานฆ่า หม่อมเจ้าฐิติพันธ์ ยุคล หรือท่านกบจนสิ้นชีพิตักษัย ด้วยการผสมยาพิษ ในถ้วยกาแฟให้ดื่ม เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2538
สำหรับคดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางชลาศัย ยุคล หรือ หม่อมลูกปลา เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในความผิดฐานฆ่า หม่อมเจ้าฐิติพันธ์จนสิ้นชีพิตักษัย ด้วยการผสมยาพิษ ในถ้วยกาแฟให้ดื่ม ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก จำเลย เป็นเวลา 9 ปี แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 6 ปี จำเลยจึงยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี
คดีชั้นศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องจำเลยโดยให้เหตุผลว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน ชี้ให้เห็นได้ว่า จำเลย เป็นผู้ใส่ยาพิษ ในถ้วยกาแฟ ของท่านกบ ประกอบกับ พยานบุคคลของฝ่ายโจทก์ที่เข้าเบิกความ ล้วนแต่มีพิรุธ น่าสงสัยมีน้ำหนักน้อย ส่วนคำรับสารภาพของ จำเลยในชั้นสอบสวน เป็นคำรับสารภาพที่ให้การโดยไม่สมัครใจ รวมทั้งภาพบันทึกทำแผนที่ประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการตามความสมัครใจของจำเลย ล้วนแต่เป็นการเสกสรรปั้นแต่งขึ้น ประกอบกับพยานทั้งหมด ล้วนเป็นคนใกล้ชิดของผู้ตาย ซึ่งมีส่วนได้เสีย กับทรัพย์สินในกองมรดก อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น จึงพิพากษายกฟ้อง
ต่อมาทางพนักงานอัยการซึ่งเป็นโจทก์ได้ยื่นฎีกาขอให้ศาลลงโทษจำเลย กระทั่งศาลฎีกาพิเคราะห์พยานหลักฐานและใช้ดุลยพินิจพิจารณาแล้วพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้ จำคุกหม่อมลูกปลา ผิดฐานทำร้ายร่างกายท่านชายกบจนถึงแก่ความตาย จำคุก 7 ปี แต่ให้การรับสารภาพ ลดโทษ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 4 ปี 8 เดือน ข้อหาอื่นให้ยกดังกล่าว
ก่อนหน้าที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา นางชลาศัย ยุคล หรือ หม่อมลูกปลา จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีการะบุว่าไม่ได้คาดหวังคำตัดสินของศาลในวันนี้โดยขอเป็นดุลยพินิจของศาลจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งชีวิตเวลานี้แม้จะไม่สะดวกสบายเหมือนเมื่อครั้งอยู่ในวังอัศวิน แต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายและไม่เคยนำไปเปรียบเทียบกัน