ดีเดย์ 1 ก.ย. ใบเตือนผิดกฎจราจร ผิดซ้ำเจอจัดหนัก

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. (ดูแลงานจราจร) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ค ถึงการเตรียมแจกใบเตือนการกระทำผิดกฏจราจรที่จะนำมาใช้ในวันที่ 1 กันยายน นี้ เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้นตามนโยบายผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรใช้การว่ากล่าวตักเตือนผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร ในข้อหาเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรและความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่ ได้รับใบเตือนไปแล้วครั้งหนึ่ง และยังกระทำความผิดกฎหมายจราจรซ้ำอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยอาจถูกปรับในอัตราโทษสูงสุดทันที

สำหรับลักษณะของใบเตือนจะมีรูปแบบประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 สีเหลือง สำหรับให้เตือนแก่ผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดกฎหมายจราจร ส่วนที่ 2 สีชมพู สำหรับใช้ในการบันทึกข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์หรือฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนที่ 3 สีขาว สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับติดอยู่กับต้นขั้วเล่มใบเตือนไว้เป็นหลักฐาน สำหรับเจ้าพนักงานผู้พบเห็นการกระทำความผิดหรือจับกุม

อย่างไรก็ตาม การออกใบเตือนกับ ผู้ขับขี่ที่กระผิดกฎหมายจราจร จะไม่นำไปใช้ใน 13ข้อหาหลักตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา คือ 1.แข่งรถในทาง 2. ขับรถเร็ว 3. แซงในที่คับขัน 4. เมาแล้วขับ 5. ขับรถย้อนศร 6. ไม่สวมหมวกนิรภัย 7. จอดรถซ้อนคัน 8.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 9. มลพิษควันดำ 10. จอดรถในที่ห้ามจอด 11.การจอดรถบนทางเท้า 12. การขับรถบนทางเท้า 13. แท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ทั้งนี้ ใบเตือนจะมีขนาดเดียวกันกับใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร แต่จะมีคำว่าใบเตือน อยู่ด้านบน

พล.ต.ต.วรศักดิ์ ยังระบุว่าประชุมกำชับการปฏิบัติงานในหน้าที่จราจรของ ตำรวจจราจร สังกัด บก.น.9 ตั้งแต่ระดับผู้บังคับการลงมาถึงชั้นประทวน โดยมอบนโยบายดังนี้ 1. ตำรวจจราจรต้องทำหน้าที่อำนวยการจราจรให้เลื่อนไหลมาเป็นอันดับแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงมาปรากฏกายและลงมาจัดการจราจรบนท้องถนน โดยรองผกก.จร.และสว.จร.ต้องลงมาควบคุมการปฏิบัติด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด 2. ห้ามตั้งด่านจราจรในเวลากลางวันโดยเด็ดขาด และให้ไปบังคับใช้กฏหมายใน 12 ข้อหาหลัก ที่ประชาชนต้องการให้จับกุม 3. ทำการแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนในการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่

นอกจากนี้ยังขยายความเกี่ยวกับกรณี แท็กซี่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร ขอให้ประชาชนไม่ต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบก ให้จดจำหมายเลขทะเบียนรถแจ้งตำรวจได้เลย ถ้าพบว่าผิดจริงจะดำเนินการทันที