พลซุ่มยิงรับยิงสลายแดง แต่เป็นกระสุนปลอม
2 พลซุ่มยิง อ้างใช้ปืนเอ็ม16 ติดกล้องบีบีกัน ไม่ใช่ปืนสไนเปอร์ รับยิงม็อบจริง แต่เป็นกระสุนปลอม ไม่รู้คนล้มได้อย่างไร
(30 ส.ค.) จากกรณี ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ และ ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด เจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในฐานะพลทหารซุ่มยิง ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ในช่วงระหว่างเหตุสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 เข้าชี้แจงในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ภายหลังการสอบสวนนานกว่า 6 ชั่วโมง พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวว่าการสอบสวนในวันนี้(29 ส.ค.)เน้นสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้อาวุธตามภาพที่ปรากฎ
ขณะเดียวกันทหารทั้งคู่ให้การยอมรับว่า ได้รับหนังสือคำสั่งให้มารักษาความสงบควบคุมสถานการณ์รักษาความปลอดภัยของหน่วย ที่ประจำจุดบริเวณตึกแถวหน้าสนามมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้เป็นปืน เอ็ม 16 ติดกล้องปืนบีบีกัน ไม่ใช่ปืนสไนเปอร์ สำหรับประเด็นมีผู้บาดเจ็บในบริเวณที่รับผิดชอบ ทั้งสองบอกไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นผู้ยิง เนื่องจากใช้กระสุนซ้อมไม่ได้ใช้กระสุนจริง และใช้เวลายิงเพียงไม่นาน ส่วนในคลิปที่มีเสียงพูดว่าล้มแล้ว ทั้งสองบอกเป็นการยิงเตือนยิงขู่ แต่ไม่ทราบว่าล้มเพราะเหตุใด เพราะยิงลูกปืนไม่มีหัวกระสุน
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวต่อว่า ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวน อาจทำเรื่องขอปืนกระบอกดังกล่าวเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมจะเร่งทำสำนวนการสอบสวนคดีนี้ให้เสร็จโดยเร็ว และจะส่งสำนวนไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อประกอบสำนวนการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมบริเวณบ่อนไก่ และงามดูพลี