Grand Sportคว้าสิทธิ์สปอนเซอร์ชุดทีมชาติ

"บิ๊กเปี๊ยก" นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม เปิดซองประมูลสิทธิ์ในการเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แทน นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ ที่ติดภารกิจเข้าให้ข้อมูลกับ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด และการให้บริษัท สยามสปอร์ตฯ เข้ามาดูแลสิทธิประโยชน์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกโดยมี 2 บริษัท คือ บริษัท แกรนด์สปอร์ตกรุ๊ป จำกัด กับบริษัท โรงงานฟุตบอลไทย สปอร์ติง กูดส์ จำกัด (เอฟบีที) ยื่นซองประมูล โดย เอฟบีที ยื่นข้อเสนอสนับสนุนเป็นเงินปีละ 48 ล้านบาท 3 ปี รวม 144 ล้านบาท แบ่งเป็น สมาคมบริหารงาน ปีละ 10 ล้านบาท เงินหนุนกรรมการผู้ตัดสิน ปีละ 2 ล้านบาท อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ปีละ 36 ล้านบาท ทั้งนี้ เอฟบีที ยังพร้อมจัดแคมเปญพัฒนาเยาวชน 5 ภาค ทั้ง เหนือ กลาง อีสาน ใต้ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปีละ 1 ครั้ง เป็นเงินหนุน ปีละ 2.5 ล้านบาท 3 ปี รวมเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท ด้วยขณะที่ แกรนด์สปอร์ต ยื่นข้อเสนอ ให้เงินสด ปีละ 22 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี รวม 66 ล้านบาท เงินสนับสนุนลูกฟุตบอลในไทยพรีเมียร์ลีก ดิวิชั่น 1 และ 2 ฟุตบอลถ้วย ก, ข, ค, ง ปีละไม่ต่ำกว่า 8 ล้านบาท ตลอด 3 ปี เงินสนับสนุน ผู้ตัดสินอีกปีละ 2 ล้านบาท และสนับสนุนชุดกีฬา อุปกรณ์กีฬาของนักฟุตบอลไทย ทั้งชายและหญิง ไม่จำกัดรุ่นอายุ และพร้อมทั้งหนุนกิจกรรมอื่นๆ ที่ทางสมาคม จะจัดขึ้นตลอด 3 ปีหลังจากการเปิดซอง "บิ๊กเปี๊ยก" ขอเวลาปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายกฎหมาย เพื่อหารือในรายละเอียดข้อต่างๆ ก่อน แล้วจะตัดสินใจกันในวันศุกร์นี้ แต่อีกประมาณ 20 นาทีต่อมา ก็ได้เรียกสื่อมวลชน กลับมารับฟังการตัดสินใจของสมาคมฯ ที่มีมติให้ แกรนด์สปอร์ต ได้รับสิทธิ์ในการเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แทน ไนกี้ ที่หมดสัญญาไป เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา