ศาลปค.ไม่คุ้มครองคำสั่งกห.เด้งเสถียร-ให้ทุเลาย้ายชาตรี
จากกรณีที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลปกครอง มีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งกระทรวงกลาโหม สั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด นายธนพนธ์ ชูชยานนท์ ทนายความของ พล.อ.เสถียร เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมารับคำสั่งศาลปกครอง และได้ส่งคำสั่งให้กับผู้ใหญ่ในกระทรวงกลาโหม แล้วโดยเบื้องต้น ทราบว่า ศาลได้มีคำสั่งให้ทุเลา หยุดการบังคับคำสั่งกระทรวงกลาโหม โยกย้าย พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ช่วยราชการกระทรวงกลาโหม จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ส่วนกรณีของ พล.อ.เสถียร ศาลได้รับคำร้องไว้พิจารณา แต่ไม่ได้มีคำสั่งทุเลาหยุดการบังคับคำสั่งกระทรวงกลาโหมพร้อมกันนี้ นายธนพนธ์ ยังระบุด้วยว่า คำสั่งศาลที่ให้ทุเลาหยุดการบังคับคำสั่งกระทรวงกลาโหมของ พล.อ.ชาตรี นั้น จะไม่มีผลกระทบต่อการแต่งตั้งโยกย้ายในตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการยื่นคำร้องขอทุเลาหยุดการบังคับคำสั่งแต่อย่างใด คำสั่งศาลปกครองกลาง ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งยกคำขอ ทุเลาการบังคับตามคำสั่งของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม เนื่องจาก ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำสั่งช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรี เป็นคำสั่งที่ต้องการระงับยับยั้งมิให้ พล.อ.เสถียร เผยแพร่ความลับของทางราชการ และมิให้เกิดความแตกความสามัคคีในคณะทหาร จากการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม จึงไม่จำเป็นต้องอ้างเหตุผล เพราะเป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ที่รัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ข้อเท็จจริงที่พลเอกเสถียรยกขึ้น อ้างว่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร หรือการบริหารราชการภายในสำนักงานปลัดกระทรวง ยังฟังไม่ได้ในชั้นนี้ ขณะที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งให้ พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรี เนื่องศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดๆ ว่า พล.อ.ชาตรี นำความลับทางราชการเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ไปเปิดเผยแก่บุคคลภายนอก อีกทั้งการสั่งให้ไปช่วยราชการ โดยไม่ได้ระบุเวลาสิ้นสุด ย่อมกระทบต่อความมั่นคงในการปฏิบัติราชการ ขัดต่อหลักความมั่นคงในอาชีพราชการ คำสั่งดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนคำร้องที่ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม งดประชุมคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ศาลไม่มีอำนาจที่จะมีคำสั่งห้าม เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี 'สุกำพล'ให้กรมพระธรรมนูญดูศาลปค.คดีโยกปลัด พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ กรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ดูแลคดีที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นฟ้อง พล.อ.อ.สุกำพล กรณีย้ายด่วนให้ไปช่วยปฏิบัติราชการที่ สำนักรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โดยให้รับผิดชอบทั้งหมด ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งทราบว่า ศาลปกครอง ได้ส่งคำสั่งมาทางไปรษณีย์แล้ว แต่ยังไม่ถึง พล.อ.อ.สุกำพล กฤษฎีกายันคำสั่งศาลปค.ไม่กระทบโผทหารเดินหน้าได้นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ รองเลขาธิการกฤษฎีกา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากกรณีที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นเรื่องขอทุเลาคำสั่งโยกย้ายกับศาลปกครองนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่ได้หารือเรื่องนี้กับกฤษฎีกาแต่อย่างใด แต่ในทางกฎหมาย คือระหว่างที่ยังไม่มีคำสั่งออกมา บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ก็ยังสามารถเดินหน้าไปได้ และหากศาลสั่งให้ทุเลา บัญชีแต่งตั้งคงไม่ถูกระงับ โดยต้องรอดูคำสั่งของศาลว่าจะทุเลาการโยกย้ายแค่ไหน ซึ่งเมื่อดำเนินการไปแล้วศาลจะสั่งย้อนหลังไม่ได้ กล่าวคือ ไม่สามารถเปลี่ยนบัญชีแต่งตั้งได้ ถึงแม้ว่า ศาลจะสั่งว่าการกระทำไม่ชอบ ศาลก็จะไม่ก้าวล่วง โดยศาลจะสั่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ หากสั่งย้อนหลังให้ไปทำใหม่ จะกลายเป็นการก้าวล่วงได้ ทั้งนี้ต้องรอดูคำสั่งของศาลก่อนว่าจะทุเลาแบบใด เพราะยังไม่ทราบว่าศาลมีคำสั่งเช่นไรอย่างไรก็ตาม รองเลขาธิการกฤษฎีกา ยังกล่าวว่า การพิจารณาของศาลปกครองนั้น หากมีผู้ขอมาตรการชั่วคราวทั้งหลาย ศาลจะพิจารณาตามรูปคดี โดยจะดูว่ามีสาระพอสมควรหรือไม่ แล้วหากไม่สั่งจะเกิดผลเสียหายหรือไม่