ญาญ่าญิ๋ง ยอมรับทำจมูก-จัดฟัน เมินคนจับผิด
โดนขุดภาพก่อนศัลยกรรมออกมาแฉ สำหรับสาว "ญาญ่าญิ๋ง รฐา โพธิ์งาม" ล่าสุด พอเจอตัวที่มาร่วมงานเปิดตัว "Bangkok Airways Blue Ribbon Screens" Bangkok Airways Blue Ribbon Screen ที่ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ งานนี้ สาวญาญ่าญิ๋ง ก็เปิดเผยว่า
"หนังจันดาราที่มีภาพโป๊ แต่กระแสกลับออกมาดีนั้น ญิ๋งว่าโดยภาพรวมของภาพยนตร์ เชื่อว่า คนที่ดูแล้วจะรู้สึกว่ามันไม่ได้โป๊จนเกินไป นั้นก็หมายถึงว่า ความโป๊มันก็มีเหตุและผลของมัน ก็ได้รับการตอบที่ดีก็รู้สึกดีใจ แต่ก็ยังเครียดต่อไปกับภาค 2 ว่าจะเป็นยังไง สำหรับอีกมุมหนึ่ง ที่มีคนดู ติว่า ญิ๋งดูไม่แก่เท่าบทนั้น มันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน จริง ๆ คุณบุญเลื่อน ก็อายุมากกว่าเราเยอะ และมันก็เป็นการมาเล่นภาพยนตร์ครั้งแรกของญิ๋งด้วย มันก็ยังต้องมีอะไรที่เรายังต้องปรับปรุงอีกเยอะ ญิ๋งก็น้อมรับและยินดีทุกคำติชม"
ทั้งจันดารา ทั้งแม่เบี้ย หวังจะกลับมาฮอตหรือเปล่า? "ญิ๋งก็ว่างานมันออกมาช่วงนี้พร้อมกันมากกว่า ตัวแม่เบี้ยเองก็จะเป็นเรื่องที่ยาก อย่าง จันดารา พอถ่ายทำเสร็จ ก็ต้องตัดต่อ แต่แม่เบี้ยมันเป็นงานที่เราเล่นสด ดังนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ตอนนี้ก็พร้อมมากแล้ว"
"ส่วนเรื่องที่หลายคนมองว่าเป็นเจ้าแม่อีโรติกไปแล้วนั้น ก็จริง ๆ ญิ๋งก็ไม่ได้มีเยอะ เท่าที่ได้เห็นกันก็ไม่ได้เยอะแยะอะไร ลิมิตเต็มที่ก็คืออะไรที่เราทำแล้วรู้สึกว่า เราไม่เคอะเขินต่อหน้ากล้อง ถ้าเราเคอะเขิน เราก็จะไม่กล้าเล่น พอเราไม่กล้าเล่น งานมันก็ออกมาไม่ดี"
ส่วนเรื่องที่มีเว็บไซต์ชื่อดังเอาวิวัฒนาการความสวยของญิ๋งออกมาเปิดเผยนั้น ญิ๋งบอกว่า... "ก็ได้เห็นบ้างแล้ว ก็ว่าไม่ได้ บางทีเราก็เข้าใจ เพราะเราก็มาอยู่วงการตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีวิวัฒนาการ จนทุกวันนี้วิวัฒนาการมันก้าวหน้ามาก เราก็น้อมรับ แต่ก็คงไม่ได้คิดจะทำอะไรเพิ่มอีก ก็คงมีแค่นี้ที่เหลือก็คงเป็นเรื่องของการดูแลตัวเอง ญิ๋งยอมรับ เพราะญิ๋งเป็นคนยอมรับอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หน้าตามันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ และญิ๋งก็ไม่ใช่คนสวยตั้งแต่เกิด มันก็ต้องมีบ้าง ทุกวันนี้ญิ๋งก็ยังมั่นใจว่า ญิ๋งยังเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ของแม่อยู่เหมือนเดิม แต่มันก็ต้องมีการพัฒนา เราโตขึ้น ก็อยากมีความสวยบ้างเราเป็นผู้หญิง ก็อยากมีความมั่นใจ"
ทำตรงไหนบ้าง? "ก็มีจมูกและดัดฟัน เรื่องฉีดโบท็อก ญิ๋งยอมรับว่าเคยฉีด แต่เรารู้สึกว่ายิ้มแล้วมันเขินๆ ก็เลยไม่ได้ทำอีก ตอนนี้ก็ใช้วิธีธรรมชาติ ใช้ลูกกลิ้งไป คนเราวันหนึ่งมันก็ต้องไปตามกาลเวลา แต่ตอนนี้งานเยอะ เราก็ต้องดูตัวเอง เรื่องอัพหน้าอก ญิ๋งก็คงไม่กล้า เพราะแม่เคยเตือน ถ้าเยอะมากเดี๋ยวลูกจะตกใจ"
"ญิ๋งว่าตอนนี้แต่งตัวก็สบายใจดี ไม่ต้องกลัวว่ามันจะหลุด ส่วนเรื่องที่หลายคนกำลังจับผิดอยู่นั้น ญิ๋งว่า ณ ปัจจุบันนี้เรื่องศัลยกรรม มันเป็นเรื่องคู่กับโลก เด็กๆ สมัยนี้ก็เหมือนกัน เริ่มคิดที่จะศัลยกรรมตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งหนึ่งที่ญิ๋งเป็นและคิดมาตลอดก็คือ ญิ๋งเป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกว่า ต้องทำแล้วมันสวยขึ้น ญิ๋งรู้โครงหน้าตัวเอง ญิ๋งหน้าเหลี่ยม ไม่มีวันที่จะทำให้ตัวเองหน้าเล็ก และญิ๋งรู้สึกว่ามันเป็นจุดของตัวเอง และไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้น เมื่อเรารู้จุดว่าแค่ไหนแล้วก็พอ เอาแค่มั่นใจก็พอ ไม่ใช่ว่าการไปทำศัลยกรรม เพื่อไปทำให้เหมือนใคร นั่นก็แปลว่า คุณไม่เป็นตัวเองแล้ว คุณอยากเหมือนคนนู้นคนนี้ อยากไปทำเพื่ออยากเหมือนเขา ถามว่าแล้วตัวเองอยู่ตรงไหน ดังนั้น คุณต้องหาตัวเองให้เจอก่อน แล้วจุดไหนที่คุณรู้สึกไม่มั่นใจ คุณค่อยไปเสริม ไปเติมเอา แต่แนะนำเลยว่า อย่าไปฉีดเลยมันอันตราย"