โฆษก กห.เผยเน้นประโยชน์ปชช.คู่จงรักภักดี

พล.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผ่าน รายการ หอกระจายข่าว ว่า  การดูแลความสงบในพื้นที่ตามแนวชายแดนของกระทรวงกลาโหม ยังมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวม และยังปฏิบัติตามแผนที่คำนึงถึงงบประมาณ โดยที่ผ่านมาทางกระทรวง ได้มีแผนแม่บทจัดส่วนราชการและทำวิจัยเพื่อประหยัดงบประมาณ ในการทำอาวุธ เพื่อลดการสั่งซื้อจากต่างประเทศ  ซึ่งในปีหน้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะให้หน่วยงาน รวมความคิด เพื่อวิจัยมาตรฐานอาวุธในการนำไปใช้ต่อ ส่วนงานด้านความจงรักภักดี ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายจงรักภักดีทั่วประเทศ และพัฒนาการล่วงระเมิดสถาบันทางอินเทอร์เน็ต แบบจิตวิทยาเชิงรุก ด้านการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้  ยังเน้นการทำงานตามศูนย์ของรัฐบาล เพื่อให้การขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่เป็นเอกภาพ ส่วนกลุ่มก่อความไม่สงบ เข้ามาพูดคุยกับรัฐบาล ถือเป็นสิ่งที่ดี และคิดว่า การเมืองต้องนำการทหารในการปฏิบัติงาน ขณะที่ มีบางส่วนเห็นว่าควรถอนกำลังกองทัพภาคที่ 1-3 ออกจากพื้นที่ เพื่อให้กองกำลังท้องถิ่นดูแลนั้น ส่วนตัวมองว่า กองกำลังดังกล่าว มีส่วนสำคัญในการเสริมกำลังในพื้นที่  หากเหตุการณ์สงบ ก็จะนำกำลังกลับคืนพื้นที่เช่นเดิม  โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างประเทศดีขึ้น ตามลำดับ อาทิ ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า มาเลเซีย รวมถึง จีน และสหรัฐอเมริกา  นอกจากนี้ ทางกระทรวงกลาโหม ได้ขยายความสัมพันธ์ไปยังทางตะวันออกกลาง เช่น ประเทศกาตาร์ และอิสราเอล เพื่อบันทึกความเข้าใจทางการทหารในอนาคต เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีทรัพยากรธรรมชาติมาก  ทั้งนี้ ยังได้ขยายความสัมพันธ์ ไปยัง ประเทศอินเดีย  เพื่อตกลงด้านความป้องกันระหว่างประเทศ  ส่วนบทบาทด้านสหประชาชาติ  ได้มีการส่งเสริมความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ด้านประเทศกลุ่มอาเซียน  ได้เน้นความสัมพันธ์ทางด้านความมั่นคง การเมือง และการช่วยเหลือภัยพิบัตินอกจากนี้  พล.อ.ธนาทิป ยังเปิดเผยว่า  การแก้ปัญหาน้ำ ยังปฏิบัติตาม รัฐบาล ภายใต้ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. ทั้ง ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ พร้อมยืนยัน  ทางกองทัพมีความพร้อมในการช่วยเหลือตลอดเวลา หากมีเหตุฉุกเฉิน