จับหมอเถื่อนเขมร นวดนิสิตเกียรตินิยมจุฬาฯ ดับคาคลินิก

จับหมอเถื่อนเขมร นวดนิสิตเกียรตินิยมจุฬาฯ ดับคาคลินิก

จับหมอเถื่อนเขมร นวดนิสิตเกียรตินิยมจุฬาฯ ดับคาคลินิก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับหมอเขมรเถื่อนอ้างเป็นตัวแทนพระเยซู เปิดคลินิกนวดพิสดารรักษาโรค ทำนิสิตสาวเกียรตินิยมอันดับ1 จุฬาฯ ดับอนาถ

(22 ก.ย.) เมื่อ วันที่ 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ส.ดินแดง นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุม นางวองท์ ลลิตา อายุ 50 ปี สัญชาติกัมพูชา กรณีอ้างตัวว่าเป็นตัวแทนพระเยซู และเปิดคลินิกเถื่อนรักษาโรคทั่วไปด้วยการนวด จนทำให้ น.ส.โม(นามสมมติ) อายุ 22 ปี ซึ่งเรียนจบคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย วิชาเอกการปฐมศึกษา เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียชีวิตคาคลินิก เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา

นางจันฑนา จินดาถาวรกิจ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับร้องเรียนจากนายไพบูลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ว่า บุตรสาว ซึ่งมีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวาน ได้มารักษาที่คลินิกดังกล่าว เป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา ชื่อ หจก.ลาลิต้า วองท์ เลขที่ 22 ซ.ชุ่มชื่น ถ.อโศก-ดินแดง แขวงและเขตดินแดง โดยหมอรักษาด้วยการนวดตามร่างกาย ไม่ให้คนไข้กินยาโรคเบาหวาน จนทำให้น.ส.โม เสียชีวิตในคลินิกในที่สุด จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม

ด้านนายไพบูลย์ เปิดเผยว่าบุตรสาวกำลังจะเข้ารับปริญญาในเดือนหน้า ป่วยเป็นเบาหวานมาตั้งแต่อายุ 14 ปี เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มารดาของเพื่อนแนะนำให้ไปรักษากับหมอเขมรคนนี้ พบว่าหมอคนนี้นับถือศาสนาคริสต์เหมือนกับครอบครัว และมีการแสดงวิธีรักษาผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบ จึงทำให้เชื่อใจและยอมให้บุตรสาวไปรักษา โดยคิดค่ารักษาชั่วโมงละ 2,000 บาท

ครั้งแรกหมอเขมรรักษาโดยใช้เท้าเหยียบหินก้อนใหญ่ แล้วจึงมาเยียบตามร่างกาย แต่ครั้งล่าสุดบุตรสาวมีอาการหายใจไม่ค่อยออก แต่หมอเขมรบอกว่าพระเจ้ากำลังเรียงกระดูกให้อยู่ โดยไม่ให้กินยารักษาโรคเบาหวาน และให้บุตรสาวนอนค้างที่คลินิกจนเสียชีวิตในที่สุด ขณะที่แพทย์ชันสูตรระบุเสียชีวิตหัวใจวาย กระเพาะอาหารพบสารสีน้ำตาล 50 ม.ล. ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นสารอะไร ก่อนพบว่าเป็นคลินิกเหมอเถื่อน จึงไปร้องเรียนกระทรวงให้เข้าจับกุม

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่าผู้ต้องหามีการอวดอ้างว่าได้รับพรในการรักษานวดให้หายโรคภัยไข้เจ็บ จึงมีผู้ใช้บริการจำนวนมากรวมถึงคนดังและคนใหญ่คนโต ถึงขนาดมีโทรทัศน์ช่องหนึ่งมาถ่ายทำรายการ ซึ่งการรักษามีหลากหลายวิธีทั้งการนวด และการเอาเท้าอังหินที่แช่ถ่านร้อนก่อนเหยียบนวดตามตัว หรือการให้ผู้มาทำการรักษานอนทับหินร้อนๆบ้าง หรือแม้กระทั่งใช้ยาคลายเส้น ยานวด ยาสวนทวาร ซึ่งยาเหล่านี้ล้วนไม่ได้รับอนุญาตทางการแพทย์ทั้งสิ้น 

เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าให้การรักษาลักษณะดังกล่าวจริง จึงได้แจ้งข้อหาประกอบโรคศิลปะโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ประกอบโรคศิลปะและประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.สถานบริการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook