ตร.นำรถแบคโฮขุดหาศพที่ไร่เพชรบุรีอีกรอบ

ในวันนี้ ภารกิจการขุดค้นหาศพรายต่อไป ที่ไร่ของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการหายตัวไปของ 2 สามี - ภรรยา ได้เริ่มขึ้นแล้ว ในช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่นำรถแบคโฮมาขุดค้นหาศพที่เชื่อว่าน่าจะมีศพรายต่อไปถูกฝังอยู่ใกล้ๆ กับจุดที่พบศพรายที่ 2 และ 3 พร้อมกับ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย มาร่วมทำการสังเกตการณ์ในครั้งนี้ รวมถึงได้มีชาวบ้านและคนงานได้แห่มาดูการขุดค้นหาศพเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และการให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเร่งขุดค้นหาศพต่อไปอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น ขณะนี้ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติที่คาดว่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์แต่อย่างใด  ตร.ยังไม่ได้ผลตรวจดีเอ็นเอโครงกระดูกแรกพล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจดีเอ็นเอ โครงกระดูกโครงแรก ที่พบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์ (สบ 5) อายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคาดว่าจะเป็นร่างของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย หรือ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ ภรรยา เจ้าของไร่สับปะรด อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไป ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบดีเอ็นเอ ว่าตรงกับพ่อและแม่หรือไม่ จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ คาดว่า ในวันจันทร์หรือวันอังคารนี้ น่าจะทราบผล ซึ่งหากผลตรวจดีเอ็นเอโครงกระดูกที่พบรายใดรายหนึ่ง ยืนยันว่า เป็นสองสามีภรรยาที่หายตัวไป พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายอีก 1 ข้อหา ส่วนโครงกระดูกที่พบในไร่อีก 2 โครงนั้น ตำรวจจะนำส่งนิติเวช ในวันจันทร์ ช่วงเช้า ขณะที่ ด้าน พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ นั้น ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้ความร่วมมือในเจ้าหน้าที่ โดยขอต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ 'หมอสุพัฒน์' เครียดนอนคุกข้าวไม่กินขอน้ำปัดฆ่า2ผัวเมียพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์ (สบ 5) อายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ได้แล้ว ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย ฆ่า 2 สามีภรรยาที่หายตัวไป มีอาการค่อนข้างเครียดและนอนไม่หลับ และเพิ่งจะนอนหลับไปเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาไม่ยอมทานข้าว แต่ได้ขอน้ำดื่มกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ขณะเดียวกัน ในช่วงเช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการสอบปากคำผู้ต้องอีกครั้ง หลังจากที่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ และจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ที่ รีสอร์ท "ปึกเตียน วิลล่า" ใน จ.เพชรบุรี โดยเจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนต่อการจับกุมแต่อย่างใด เตรียมคุมตัว'พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์'ฝากขังพรุ่งนี้พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผู้กำกับการ สภ.ท่าไม้รวก เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน เตรียมควบคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์ (สบ 5) อายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย ฆาตกรรม 2 สามีภรรยาที่หายตัวไป ขออำนาจศาลจังหวัดเพชรบุรี ฝากขังช่วงสายของวันจันทร์ ที่ 24 ก.ย. 2555 พร้อมให้พนักงานลงความเห็นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ รวมถึง อาจทำให้เสียรูปคดีได้ ขณะที่ จากการสอบปากคำ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ยังคงให้การปฏิเสธ ส่วนในวันนี้ จะมีการเข้าไปตรวจค้นไร่สับปะรดหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการขอหมายศาล บรรยากาศ สภ.ท่าไม้รวก บรรยากาศที่ สถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เป็นไปด้วยความเงียบเหงา หลังจากที่เมื่อวานนี้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไว้ได้แล้วนั้น วันนี้ผู้ต้องหาได้ถูกควบคุมตัวไว้อยู่ในห้องขัง แต่ยังไร้ญาติมาเยี่ยม อีกทั้ง ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ยังได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ส่วนตัวของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่ได้ทำการยึดมาไว้ยังบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวก เพื่อหาสิ่งผิดปกติ แต่ก็ยังไม่พบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่มีการติดต่อขอประกันตัวแต่อย่างใด ส่วนในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องรอหมายศาล เพื่อขอเข้าตรวจค้นหาศพเพิ่มเติม ภายในไร่สับปะรดของผู้ต้องหาต่อไป จึงจะเข้าไปทำการตรวจค้นได้ ญาติ "นายสว่าง นุ่มจุ้ย" เข้าเเจ้งความเพิ่ม "พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์"ขณะนี้ นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดา ของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย บิดาของบุคคลที่ได้หายตัวไป เมื่อ 3 ปีก่อน ที่คาดว่าจะเป็นโครงกระดูกที่ขุดพบศพ เป็นรายที่ 2 ได้เดินทางเข้ามาที่ สถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี พร้อมญาติ เป็นจำนวนมากเพื่อแจ้งความเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ในข้อหา ฆ่าคนตายและกักขังหน่วงเหนี่ยว โดย นายสว่าง ยังได้กล่าวด้วยว่า อยากให้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ออกมายอมรับความจริง อย่าคิดใช้พวกให้ช่วยในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เพราะตนเชื่อมั่นว่า คนผิดย่อมได้รับผิดตามกฎหมาย และพร้อมที่จะดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ให้ถึงที่สุด ญาติชูป้ายค้านประกัน พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ขณะที่บรรยากาศล่าสุด ที่สถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี ในเวลาต่อมา ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียหาย ที่เชื่อว่า พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงกระดูกที่ได้ค้นพบทั้ง 3 ราย โดยต่างนำป้ายมาชูเรียกร้องขอความเป็นธรรม และเขียนข้อความในป้าย ว่า คัดค้านการประกันตัว และคัดค้านผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินงานตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย และอย่าใช้อำนาจหน้าที่ปกป้องคนผิด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ แล้ว 3 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับซื้อของโจร และกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนข้อหาฆ่าคนตาย ทางเจ้าหน้าที่จะต้องรอผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ของโครงกระดูกออกมาก่อน ว่าเป็นใคร ตร.ขอหมายค้นบ้านพัก 2 จุดในกทม.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี และชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ยังคงติดตามจับกุมภรรยา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี นำกำลังชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี กว่า 50 นาย ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี ข้อหาร่วมกันกักขังหน่วยเหนี่ยวทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งภรรยา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ซึ่งล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายค้นแล้ว คาดว่ากำลังทั้งสองชุดกำลังเดินทางเข้าตรวจค้นบ้านพักเป้าหมายที่ลาดพร้าว กับเขตภาษีเจริญ เพื่อจับกุมตัวต่อไป สั่งไล่ออกพตอ.นพ. สุพัฒน์พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ พตร. (สบ 8) เปิดเผยว่า ขณะนี้ โรงพยาบาลตำรวจ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์ (สบ 5) อายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ในคดีการหายตัวไปของ สองสามีภรรยา นายสามารถ นุ่มจุ้ย หรือ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ ภรรยา เจ้าของไร่สับปะรด อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ออกจากราชการ เนื่องจากขณะนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้ว ส่วนการเกษียณอายุก่อนกำหนดนั้น ให้มีคำสั่งระงับทันที อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางโรงพยาบาล เห็นว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ยังเป็นเพียผู้ต้องสงสัยในคดี จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนข้อเท็จจริง ควบคู่ไปกับการสอบสวนของตำรวจ เพราะ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ยังถือเป็นข้าราชการ ในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจอยู่  แม้จะทำเรื่องขอเกษียณอายุก่อนกำหนดไปแล้ว ตร. เผย ผลขุดหาศพครั้งที่ 3 ไม่พบ เพิ่มฝากขังหมอ พรุ่งนี้ เที่ยงพ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การใช้รถแบคโฮ ขุดหาศพเพิ่มเติม ในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อายุรแพทย์ ร.พ.ตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในการหายตัวปริศนาของ 2 สามีภรรยา และมีการขุดดินในไร่จนพบโครงกระดูถึง 3 ร่างนั้น ล่าสุด การขุดครั้งที่ 3 เกือบยุติลงแล้ว หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก พอฝนหยุดก็ขุดต่อ แต่แสงสว่างเริ่มไม่พอ จึงจะหยุดขุด ซึ่งผลยังไม่พบโครงกระดูก หรือหลักฐานใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าการขุดไร่ดังกล่าว ที่มีเนื้อที่กว่า 40 ไร่ จะต้องทำการขุดหาต่อในวันต่อไป ส่วนตัวผู้ต้องหานั้น จะคุมตัวไปฝากขังต่อศาลที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี ในวันพรุ่งนี้ ก่อนเที่ยง ล่าสุดขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำการขุดค้นหาศพรายต่อไปเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ทำการขุดดินค้นหาใช้เวลาในการขุดไปได้กว่า 1 ชั่วโมง ในจุดแรกและจุดที่สอง ก็มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ ที่นำรถแบคโฮมาขุด ต้องหยุดชะงักลงทันที เนื่องจากฝนตกลงมา ทำให้สภาพพื้นดินเหลวเป็นโคลน จึงยากแก่การขุดค้นหาต่อไป ส่วนชาวบ้านที่มาคอยดูการขุด ก็ได้ทยอยเดินทางกลับกันไปบ้างแล้วในบางส่วน ทั้งนี้ ด้าน พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี ได้เปิดเผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการยื่นคำร้องคัดค้านประกันตัวต่อศาลด้วย บุกค้นบ้านพักหมอ ร.พ.ตร. ย่านลาดพร้าว และเพชรเกษม แต่คว้าน้ำเหลวความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจภูธรภาค 7 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 แห่ง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านที่ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 สามีภรรยาใน จังหวัดเพชรบุรี ที่เคยพักอาศัยอยู่ เพื่อตรวจหาพยานเพิ่มเติม โดยจุดแรกที่เป็นบ้านพักอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 87 ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาคนที่ 4 ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ แต่เมื่อไปถึงปรากฏไม่มีผู้อยู่บ้าน จึงเลื่อนการเข้าตรวจค้นออกไป อีกจุดคือห้องเช่าภายในเทพีแมนชั่น ตั้งอยู่ระหว่างซอยเพชรเกษม 31 และเพชรเกษม 33 หลังสืบทราบว่า น.ส.วิสสา จันทรบัญชา ผู้ต้องหาซึ่งเป็นภรรยาของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาเช่าอาศัยอยู่ จากการตรวจสอบพบว่า ห้องพักถูกแม่กุญแจล็อกเอาไว้ และเมื่อสอบถามชาวบ้านข้างเคียงทราบว่า ไม่มีผู้เดินทางมาพักที่ห้องดังกล่าวหลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับไป เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป