แม่ร้องสื่อช่วยตามหา"น้องปีเตอร์" ลูกครึ่งอิตาลี วัย 11 ขวบ

แม่ร้องสื่อช่วยตามหา"น้องปีเตอร์" ลูกครึ่งอิตาลี วัย 11 ขวบ

แม่ร้องสื่อช่วยตามหา"น้องปีเตอร์" ลูกครึ่งอิตาลี วัย 11 ขวบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่ร้องสื่อช่วยตามหา"น้องปีเตอร์" ลูกครึ่งอิตาลี วัย 11 ขวบ หลังมีคนไปรับที่โรงเรียนก่อนหายตัวไป เชื่อเป็นฝีมืออดีตสามี

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 2 ตุลาคม น.ส.สุดใจ ชาบรรทม อายุ 37 ปี พร้อมด้วยญาติ เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวใน จ.นนทบุรี ให้ช่วยเผยแพร่ข่าว ด.ช.ปีเตอร์ กูเลมี อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 7 โรงเรียนสารสารสน์วิเทศบางบัวทอง ลูกชายซึ่งหายไปจากโรงเรียนเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา หลังเข้าแจ้งความกับ ตำรวจสภ.บางบัวทอง ผ่านมาแล้วหลายวันยังไม่มีความคืบหน้า

น.ส.สุดใจ กล่าวว่า ตนได้แต่งงานอยู่กินกับนายจีโน่ กูเลมี สามีชาวอิตาลี จนมีลูกด้วยกันหนึ่งคนคือ ด.ช.ปีเตอร์ หลังจากอยู่กินกันมาได้ประมาณ 8 ปี ก็ต้องเลิกลากัน โดยตนนำ ด.ช.ปีเตอร์ ลูกชายมาเลี้ยงดู แต่นายจีโน่ อดีตสามี ก็พยายามที่จะมาขโมยลูกไป โดยก่อนหน้านี้ก็พาตัวจากโรงเรียนที่ลูกชายเรียนอยู่ พาไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ตนจึงได้ร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวโดยทางศาลได้ตัดสินให้ตนเป็นผู้เลี้ยงดูบุตร จึงได้ให้คนไปนำลูกชายกลับมาอยู่กับตนที่บ้านที่ อ.บางบัวทอง

จากนั้นได้รับข้อความข่มขู่จากอดีตสามีมาตลอด โดยข้อความล่าสุดที่ส่งเข้ามาในมือถือเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา ระบุว่าให้ตนเองระวังตัวให้ดีแล้วเราจะเห็นดีกัน จนเมื่อวันที่28 กันยายน รถรับส่งนักเรียนได้โทรศัพท์แจ้งมาว่า ลูกชายของตนไม่ได้กลับมากับรถรับส่งนักเรียนและไม่ทราบว่าใครมารับ จึงได้รีบเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่และขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ทางโรงเรียนอ้างว่าไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งตอนที่นำลูกไปเข้าเรียนตนได้แจ้งบอกกับทางโรงเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าถ้ามีการมารับเด็กกลับบ้านจะต้องเป็นตนและป้าของเด็กเท่านั้น คนที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเด็ดขาด

อย่างไรก็ตามจึงแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง จนผ่านมาแล้วหลายวันไม่มีความคืบหน้าตนไปสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงมาร้องกับสื่อเพื่อให้ช่วยประกาศหาลูกชาย

"ตอนนี้เป็นห่วงลูกชายมาก ไม่ติดใจเอาความหรือถ้าใครพบเบาะแสให้แจ้งมาที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 087-6269735 และถ้าหากเป็นพ่อของด.ช.ปีเตอร์ พาลูกไปก็ให้แจ้งให้ตนทราบด้วยจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงลูกและถ้ารู้ว่าลูกปลอดภัย"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook