หมอเหวงพบDSIพร้อมขอให้เรียกคณิตสอบ

น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำ กรณีการเสียชีวิต 91 ศพ ระหว่างการชุมนุมทางการเมือง เมื่อเดือนเมษายน - พฤษภาคม ปี 2553โดย น.พ.เหวง กล่าวว่า ในวันนี้ เดินทางมาให้ข้อมูลในฐานะพยาน เนื่องจากเป็นแกนนำ นปช. พร้อมกับได้มายื่นเรื่องให้ดีเอสไอ ตรวจสอบรายงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. และให้เชิญ นายคณิต ณ นคร ประธาน คอป. นายสมชาย หอมลออ กรรมการ คอป. มาสอบสวนกรณีรายงานของ คอป. จำนวน 36 หน้า มีการระบุถึงชายชุดดำ โดยเฉพาะกรณีที่ นายสมชาย กล่าวหาว่า ชายชุดดำเป็นผู้ทำร้ายผู้ชุมนุมเสียชีวิต9 ศพ รวมถึงกรณีชายชุดดำ เป็นการ์ด และคนสนิทของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ซึ่งรายงานดังกล่าวก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานอ้างอิง จึงเรียกร้องให้ คอป.นำหลักฐานออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนพร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้กรรมการสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบกรณีที่ทหารได้ติดป้าย "เป็นเขตใช้กระสุนจริง" ว่าเป็นการขัดต่อสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เนื่องจากในหลักของสหประชาชาติ ไม่สามารถกระทำได้ DSI สอบ "หมอเหวง" เรื่องชายชุดดำพ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยภายหลังสอบปากคำ น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นานเกือบ 5 ช.ม. ว่า ประเด็นการสอบปากคำในวันนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลหลักฐานทั้งหมด ที่ น.พ.เหวง เคยมอบให้ดีเอสไอก่อนหน้านี้ รวมถึงข้อมูลเรื่องชายชุดดำ ว่าทราบมาได้อย่างไร และเมื่อทราบแล้วมีวิธีการป้องกันขณะชุมนุมอย่างไร ประกอบกับ เรื่องการมีอาวุธในพื้นที่ชุมนุมด้วยส่วนภาพถ่ายที่ น.พ.เหวง นำมามอบให้ดีเอสไอตรวจสอบในวันนี้นั้น มีปรากฏในสำนวนอยู่แล้ว ซึ่งบางส่วนเคยให้พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ดูแล้ว ทั้งนี้ หากมีข้อมูลหรือภาพชุดใหม่เพิ่มเติม ดีเอสไอ ก็จะมีการตรวจสอบต่อไปสำหรับการเรียกร้องให้เชิญ นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. และ นายสมชาย หอมลออ กรรมการ คอป. มาสอบปากคำนั้น พ.ต.อ.ประเวศน์ ได้กล่าวว่า ทั้ง 2 คนเป็นเพียงผู้รับรายงานจากคณะอนุกรรมการ คอป. จึงต้องตรวจสอบก่อนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานในส่วนใด แล้วจึงเรียกมาทำการสอบสวน