พายุแกมีเป็นดีเปรส ชั่นถึงอุบลอำนาจเจริญแล้ว

พายุแกมีเป็นดีเปรส ชั่นถึงอุบลอำนาจเจริญแล้ว

พายุแกมีเป็นดีเปรส ชั่นถึงอุบลอำนาจเจริญแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 04.20 น. พายุแกมี ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ของ จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 04.20 น. พร้อมอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่น กำลังอ่อน ทำให้เกิดฝนตกปรอยๆ กระจายเป็นบริเวณกว้าง พายุเข้าในครั้งนี้ เกิดประโยชน์แก่ภาคเกษตรเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่ฝนได้ทิ้งช่วงไปนานหลายสัปดาห์ ทำให้ต้นข้าวนาปี ที่กำลังตั้งท้องอยู่ในขณะนี้ ต้องขาดน้ำหล่อเลี้ยง เกิดเหี่ยวเฉาลง ซึ่งสร้างความกังวลใจให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างยิ่งนายวีระเกียรติ รัมณีย์รัตนากุล นายอำเภอนาตาล เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สั่งกำชับผู้นำทุกหมู่บ้านที่อยู่ในเขตรับผิดชอบไปแล้ว โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่แถบริมฝั่งแม่น้ำโขง ให้พากันเฝ้าระวัง เกาะติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ขึ้นมา ก็ให้รีบรายงานไปยังอำเภอให้ได้รับทราบทันที จะได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือให้ทันต่อเหตุการณ์ ปภ.อำนาจเจริญ สั่งระวัง 'แกมี' ล่าสุดฝนตกแล้วที่จังหวัดอำนาจเจริญ ฝนเริ่มตกแล้ว ในช่วงเวลา 06.00 น.เป็นต้นมา สภาพทั่วไป ท้องฟ้ามืดครึ้ม ยังคงไม่มีความรุนแรงใดๆ จากลมฝน ประชาชนยังเฝ้ารอกันอย่างปกติ ด้าน นายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า วันนี้เจ้าพนักงานในทุกระดับได้ประจำที่ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุแกมีแล้ว จากรายงานทุก 30 นาที แจ้งว่า ในขณะนี้ ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ยังไม่ได้รับผลเสียหายใดๆ จากลมฝนพายุแกมี แต่ทุกคนที่ทำงาน จะไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ แกมีทำอีสาน-กลางล่างตอ.ใต้ฝนหนักคลื่นแรงเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (7 ต.ค. 55) พายุโซนร้อน แกมี (GAEMI) บริเวณประเทศกัมพูชา หรือที่ละติจูด 13.3 องศาเหนือ และลองจิจูด 106.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 ก.ม./ช.ม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 ก.ม./ช.ม. คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น และเคลื่อนผ่านประเทศกัมพูชา เข้าสู่ประเทศไทย บริเวณจังหวัดสระแก้ว ในคืนนี้ (7 ต.ค. 55) พายุนี้จะเริ่มมีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยมีฝนตกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ดังนี้ ช่วงวันที่ 7 - 8 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงาช่วงวันที่ 8 - 9 ต.ค. 55 มีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงาสำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7 - 9 ต.ค. 55 ไว้ด้วยประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 05.30 น. ประกาศเตือนภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.ตราดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2555 น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 - 8 ตุลาคม 2555 จะเกิดลมกระโชกแรง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ตราด ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวัง และติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด  ระดมขุดลอกท่อสี่แยกห้วยขวาง ป้องกันน้ำท่วมขัง จากการขุดลอกท่อ พบว่า ภายในท่อมีดินโคลนเป็นจำนวนมาก ทางสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานครจึงใช้รถดูดโคลนจำนวน 5 คัน ดูดออกจากท่อ โดยได้เริ่มการดำเนินการ ตั้งแต่เวลา 22.00 - 02.00 น. ทางด้าน นายชุมพล ชาวเกาะ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตห้วยขวาง กล่าวว่า ได้ทำการสำรวจจุดเสี่ยงที่อาจเกิดปัญาน้ำท่วม พบว่า บริเวณสี่แยกห้วยขวาง ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ที่ผ่านมาพบว่า มีน้ำท่วมขังสูงถึง 30 เซนติเมตร ใช้เวลาระบายน้ำกว่า 2 ชั่วโมง ทางสำนักงานเขต จึงดำเนินการขุดลอกท่อเพื่อให้น้ำไหลเวียนได้สะดวก โดยมั่นใจว่า หากฝนตกลงมาน้ำที่ท่วมขัง จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง และระบายน้ำเป็นปกติได้ ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ยังได้ตรวจสอบถนนสายหลักของกรุงเทพมหานคร โดยหากพบจุดใดเสี่ยงต่อน้ำท่วม จะมีการเข้าไปตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบระบายน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปตรวจสอบ เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนลาดพร้าว และถนนรัชดาภิเษก "อานนท์" ชี้ แกมี ไม่น่าห่วง เพราะน้ำทุ่งน้อยนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ กบอ. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า พื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี ยังไม่น่าห่วง หากฝนตกหนักและได้รับผลกระทบกับพายุแกมี แต่ห่วงสำหรับเกษตรกรที่เพิ่งปลูกข้าว เพราะหากฝนตกหนัก อาจท่วมขัง 1 - 2 อาทิตย์ ในพื้นที่ลุ่มต่ำได้ พร้อมยืนยัน น้ำเหนือในขณะนี้ แทบไม่มีและน้อยมาก ซึ่งเขื่อนสิริกิติ์ ปล่อยน้ำเพียง 7 - 8 ล้านลูกบาศเมตรต่อวัน และที่เขื่อนภูมิพล ปล่อยน้ำเพียง 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เท่านั้น ขณะที่น้ำบริเวณ จ.นครสวรรค์ และเขื่อนชัยนาท ก็มีน้ำอยู่เพียง 1,000 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อศักยภาพที่รับได้ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนน้ำที่ค้างในทุ่ง พบว่ามีแค่เพียง  1 แสนกว่าไร่ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น้อยมากเช่นกัน  "ก็คงไม่ค่อยห่วงมาก เพราะน้ำในทุ่ง มันน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ แต่ว่าเราก็ยังมองว่า หากฝนเข้ามาหนักๆ มันก็อาจทำให้มีพื้นที่ท่วมขังได้ ประมาณ 1 - 2 อาทิตย์ ในพื้นที่ลุ่มต่ำ" นายอานนท์ กล่าว นอกจากนี้ นายอานนท์ ยังกล่าวว่า หากพายุแกมี เข้าแล้วเกิดฝนตกหนัก อาจจะกระทบในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปทุมธานี และนครปฐม บางจุดเท่านั้น พร้อมยืนยัน น้ำจะท่วมเพียง 30 เซนติเมตร และไม่ท่วมนานเป็นเดือน "ปลอดประสพ" เรียกถกด่วน 5 ผู้ว่าฯ อ่าวไทย รับมือแกมี วันนี้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธาน กบอ. สั่งให้กระทรวงมหาดไทย เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ได้แก่ เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร เพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติและได้มอบหมายนโยบายในการเตรียมความพร้อมรับมือพายุแกมี ในวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2555 เวลา 10.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เชื่อมโยงกับศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายกฯ ห่วงนักท่องเที่ยวเจอพายุแกมี ปภ.กำชับ 39 จว.เสี่ยงแล้วนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนแกมี จึงได้สั่งการกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้ง 39 จังหวัด เสี่ยงภัย ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น น้ำตก เกาะ ทะเล ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และประกาศแจ้งเตือน อย่างเคร่งครัดในช่วงนี้เป็นพิเศษด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะประธาน กบอ. สั่งการประสาน 39 จังหวัด ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุแกมี แจ้งผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ ข้อเท็จจริง และการพยากรณ์ของกรมอุตุฯ และ กบอ. และเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ให้ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย  ปภ.ระดมคน อุปกรณ์สแตนบาย ช่วย ปชช.จากพายุแกมีแล้วนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า การเตรียมพร้อมด้านการปฏิบัติการและช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุแกมี ทาง ปภ.ได้สั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามพยากรณ์อากาศเฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ จำนวน 399 คน รองรับการปฏิบัติภารกิจเผชิญเหตุและช่วยเหลิอผู้ประสบภัย ตลอด 24 ช.ม. พร้อมจัดวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือ อาทิ เรือท้องแบน 300 ลำ เรือพาย 1,766 ลำ เครื่องสูบน้ำ 100 เครื่อง สนับสนุนในการช่วยเหลือจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ จากพายุแกมี ทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น สบอช. เผย แกมี อยู่เขมร คาดเข้าไทยค่ำพรุ่งนี้นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขาธิการ สบอช. และนายประวิทย์ แจ่มปัญญา รักษาการผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศ แถลงว่า ในขณะนี้พายุแกมี อยู่ที่กัมพูชา ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจากการพยากรณ์ คาดว่า พายุแกมี จะเข้ามาในไทย วันพรุ่งนี้ ประมาณช่วงเวลา 19.00 - 22.00 น. โดยศูนย์กลางของพายุแกมี จะเข้าทาง จ.สระแก้ว และจันทบุรี จากนั้นก็จะเคลื่อนออกจากภาคตะวันออก ที่ จ.ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ในวันจันทร์ เวลาประมาณ 07.00 น. จากนั้นพายุก็จะวิ่งเลียบชายฝั่งอ่าวไทย เข้าที่ จ.เพชรบุรี ในวันจันทร์ ช่วงเวลาประมาณ 13.00 - 16.00 น. และจะเคลื่อนต่อไปยัง จังหวัดราชบุรี ก่อนออกไปพม่า ทั้งนี้ เชื่อว่าระดับความรุนแรงจะลดลง โดยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 ต.ค. ซึ่งคาดว่าได้รับผลกระทบโดยรวมประมาณ 40 จังหวัด อย่างไรก็ตาม ได้ประสาน ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อให้เตรียมมาตรการรับมือสถานการณ์แล้ว มั่นใจดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ ขณะที่ในส่วน กทม.คาดว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย ทำให้เกิดฝนตกแต่ไม่หนักมาก ซึ่งเชื่อว่า ไม่เกินศักยภาพของ กทม.ในการระบายน้ำ นอกจากนี้ ไทยยังคงเฝ้าระวังพายุลูกใหม่ คือ พายุพระพิรุณ แต่เบื้องต้นคาดว่า ไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะว่าพายุจะเข้าที่ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น มั่นใจว่าในปีนี้ สถานการณ์น้ำจะไม่น่าวิตกเหมือนปีที่ผ่านมา สธ.ตั้งวอร์รูม ดูพายุแกมีใกล้ชิดนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขรับมือจากพายุแกมี ว่า ได้ให้โรงพยาบาลในพื้นเสี่ยงเตรียมพร้อมทั้งด้านการป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาล ห้องฉุกเฉินเพื่อให้สามารถบริการผู้ป่วยได้ตลอดเวลา เตรียมระบบการสื่อสารสำรอง หากระบบโทรศัพท์ปกติ ใช้การไม่ได้ และให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมระดมทรัพยากรการช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บหากมีเหตุการณ์รุนแรง หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุหรือป่วยฉุกเฉินสามารถโทรแจ้งสายด่วนกู้ชีพ 1669 ทันที ได้รับรายงานว่า ขณะนี้โรงพยาบาลทุกแห่ง สามารถบริการได้ตามปกติ  ด้าน น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข หรือ วอร์รูม ได้วางระบบรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติไว้แล้วทั้งระดับพื้นที่ ที่มี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้บัญชาการ ทำงานประสานกับวอร์รูมส่วนกลางเชื่อมโยงกับของรัฐบาล โดยถ้าหากกำลังแพทย์ในพื้นที่ไม่เพียงพอ ผู้ตรวจราชการ สามารถระดมหน่วยแพทย์จากพื้นที่ในรัศมีใกล้เคียงและรอบนอก เสริมกำลังได้ตลอดเวลา  ทั้งนี้ ให้โรงพยาบาลที่เสี่ยงน้ำท่วมโดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เช่น ที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จ.ปราจีนบุรี วางระบบป้องกันตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข คือ เสริมทำนบกั้นน้ำรอบโรงพยาบาล ให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ  7 ตัว และยกเครื่องสำรองไฟฟ้าในโรงพยาบาลรวมทั้งคลังยา เครื่องมืออื่นๆ ไว้ในที่สูง สามารถให้บริการผู้ป่วยในโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง หากน้ำท่วมสูง ก็สามารถเปิดให้บริการที่ชั้น 2 ได้เลย และยังได้สำรองยาเวชภัณฑ์ ให้พอใช้  4 เดือน นอกจากนี้ ได้จัดเตรียมพาหนะสำหรับทีมแพทย์สนามฉุกเฉิน ใช้ออกให้บริการผู้ป่วย เช่น เรือท้องแบน รถยกสูง เตรียมระบบการส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ และให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook