สบอช.เผยแกมีอ่อนกำลังไม่กระทบมากกทม.ตกถึงบ่าย

นายประวิทย์ แจ่มปัญญา รักษาการผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศ แถลงสถานการณ์พายุแกมี ว่า ขณะนี้พายุแกมีได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยวัดปริมาณน้ำฝนได้ประมาณ 5 - 10 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ส่วนพายุพระพิรุณ ที่ก่อตัวขึ้น ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย อีกเช่นเดียวกัน ขณะที่ นายสรรเสริญ เรืองฤทธิ์ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พายุแกมีไม่ส่งผลกระทบกับกรุงเทพมหานคร ปริมาณน้ำฝนอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยวัดปริมาณน้ำฝนในกรุงเทพมหานคร ใน 6 ชั่วโมง ได้ 30 - 60 มิลลิเมตร หรือไม่เกิน 10 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ กรุงเทพมหานคร สามารถรองรับน้ำได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง อุตุฯ ประกาศเตือนแกมี ฉ.29 เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 ต.ค. 55) หย่อมความกดอากาศกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “แกมี” (GAEMI) ปกคลุมบริเวณภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กำลังเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมไปปกคลุมด้านตะวันตกของภาคกลาง และจะลงสู่อ่าวมะตะบัน ประเทศพม่า ในวันพรุ่งนี้ (9 ต.ค.) ต่อไป ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน จะมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และ เพชรบุรี ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ประกาศ ณ วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11.30 น.  มท.3 ประชุมผ่านวิดีโอ เป็นห่วงปราจีนฯ หลัง แกมี ถล่มซ้ำที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะนี้ นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด และตัวแทนของจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุแกมี โดยสถานการณ์ในขณะนี้ นายฐานิสร์ กล่าวว่า มีจังหวัดที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ จ.ปราจีนบุรี เนื่องจาก จ.ปราจีนบุรี นั้นมีปริมาณน้ำท่วมทุ่งเยอะอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากพายุแกมี เข้ามาสมทบอีก ส่วน จ.ราชบุรี และ จ.กาญจนบุรี นั้น นายฐานิสร์ กล่าวว่า เป็นห่วงเรื่องน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มมากที่สุด เนื่องจาก ทั้ง 2 จังหวัดนั้นอยู่ติดภูเขา ขณะที่ จ.สระแก้ว เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้วในวันนี้ และคาดว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ กรุงเทพมหานครเองจะเข้าสู่สภาวะปกติเช่นกัน โดยกล่าวอีกว่า จากการประเมินสถานการณ์ในภาพรวม ขณะนี้ยังไม่มีความรุนแรงอะไร ขณะเดียวกันหลายจังหวัดในภาคอีสาน ก็ได้รับประโยชน์จากพายุครั้งนี้ บรรเทาปัญหาฝนทิ้งช่วง ซึ่งจะได้มีน้ำใช้ในการเกษตรต่อไป นายกฯ สั่งผ่าน มท.3 ให้ผู้ว่าฯ ดูแล ห้ามผู้ประสบภัยประท้วงนายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในที่ประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ว่านายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด เร่งซักซ้อมแผนเผชิญเหตุล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุภัยพิบัติ และเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วที่สุด โดยขอให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด รายงานสถานการณ์ให้รัฐบาลรับทราบเป็นระยะ พร้อมทั้ง ขอให้ลงพื้นที่ดูแลความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิดด้วย โดยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งกำชับให้แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วที่สุด เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี มีความไม่สบายใจ หากมีการเรียกร้องเดินขบวนและปิดถนนเกิดขึ้น โดย นายฐานิสร์ กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ จะนำประเด็นที่ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในวันนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรี รับทราบต่อไป  กรมการทหารช่างราชบุรีพร้อมรับมืออุทกภัย พล.ท.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ เจ้ากรมการทหารช่างจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้หน่วยทหารทุกหน่วย เตรียมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ในการช่วยเหลือประชาชน หากเกิดภัยพิบัติ ทางกรมการทหารช่าง จึงได้สั่งการ กองพลทหารช่าง และหน่วยขึ้นตรงของ กรมการทหารช่าง เตรียมความพร้อมทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จ.ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เมื่อได้รับการร้องขอ โดยจะต้องพร้อมปฏิบัติได้ภายใน 3 ชั่วโมงในการเตรียมการเพื่อรับพายุแกมี กรมการทหารช่างได้มีการเตรียมการ จัดชุดสำรวจและประเมินสถานการณ์เกาะติดพื้นที่ อ.สวนผึ้ง เพื่อสำรวจและติดตามสถานการณ์ เพื่อจัดชุดปฏิบัติการเข้าพื้นที่ พร้อมประสานงานกับผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ในการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหากเกิดภัยพิบัติ จัดเตรียมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ในที่ตั้งเพื่อให้มีความพร้อมในการปฏิบัติเมื่อได้รับการร้องขอ น้ำในแม่น้ำบางปะกงยังไม่ล้นท่วมฉะเชิงเทราสถานการณ์ล่าสุด ที่แม่น้ำบางปะกง อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ขณะนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำบางปะกง ยังคงสูงขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนเป็นบางจุด โดยจากการลงพื้นที่สำรวจของทีมข่าว INN พบว่า บ้านบางหลังได้เตรียมนำกระสอบทรายมาวางเป็นคันกั้นน้ำบริเวณหน้าบ้าน และจากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำบางปะกง ว่ามีความวิตกกังวลกับผลกระทบของพายุแกมีหรือไม่ โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านบอกว่า ไม่รู้สึกวิตกกังวลแต่อย่างใด แต่ก็มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ พร้อมกับพบว่าในบางจุด ได้มีการนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกในบริเวณจุดที่มีน้ำท่วมขัง รอยลเผยยังต้องจับตา3จังหวัดฝั่งตะวันตก ที่สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ซอยรางน้ำ ขณะนี้ นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ในฐานะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.ได้มาเป็นประธานการประชุมหารือคณะทำงานปฏิบัติการร่วมระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำ เพื่อประเมินสถานการณ์การทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในการป้องกันการเกิดอุทกภัย โดย นายรอยล จิตรดอน กล่าวว่า ขณะนี้พายุแกมี ได้มีการสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว ซึ่งยังคงส่งผลให้มีฝนตกเป็นระยะเวลานาน แต่ไม่หนัก โดยปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ในกรุงเทพมหานครขณะนี้อยู่ที่ 50-80 มิลลิเมตร แต่ในวันพรุ่งนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวัง จ.ราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากลมมรสุมค่อนข้างแรง อาจทำให้เกิดฝนตกหนักได้ ส่วน พายุพระพิรุณ ที่คาดว่าน่าจะเข้าประเทศไทยในขณะนี้ นายรอยล กล่าวว่า พายุดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เนื่องจากขณะนี้ พายุพระพิรุณ ได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกแล้ว นครบาล พอใจรับมือจราจร ช่วง 'แกมี' เข้า พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังประเมินสถานการณ์ภาพรวมการจราจรเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ พบปัญหามีน้ำท่วมขังเพียงจุดเดียว ที่ถนนสุวินทวงศ์ขาออก อยู่ที่ระดับ 5 - 10 ซ.ม. โดยทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเครื่องสูบน้ำดำเนินการสูบน้ำออกจากถนนเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ช่วงบ่ายก็ได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว    ทั้งนี้ยังพบว่าเมื่อช่วงเช้า มีปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณเส้นนอกเมือง อาทิ ถนนรามคำแหง วิภาวดีรังสิต พระราม 9 พระราม 2 เพชรเกษม รวมถึงบนทางด่วน แต่หลังจาก ในเวลา 09.00 น. การจราจรเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ โดยในเบื้องต้น ได้สั่งการให้พื้นที่นำไปปรับแก้ไขเพื่อเร่งระบายรถในจุดที่มีปัญหา ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้นส่วนในช่วงเย็นวันนี้ จะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง โดยศูนย์ปฏิบัติการจราจร (ศปก.จร.) ก็จะสั่งการให้ทุก สน.เฝ้าติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงผลกระทบจากพายุแกมี ที่อาจจะมีฝนตกลงมาทำให้น้ำท่วมขังถนน พร้อมทั้งยกระดับในการเฝ้าดูสถานการณ์          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำลังพล อุปกรณ์ รวมถึงแนวทางการปฏิบัตินั้น ยังไม่พบข้อบกพร่องแต่อย่างใด ถือว่าศูนย์มีความพร้อมอย่างมาก ทั้งนี้ พบว่า เจ้าหน้าที่สามารถเข้าแก้ไขปัญหารถเสีย และอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที และคลี่คลายปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้น ทบ.ยังเตรียมพร้อมรับพายุ 'แกมี' ใกล้ชิด พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ทาง กองทัพบก ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยจากพายุแกมี 100% ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา และเบื้องต้นได้ใช้พื้นที่ของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ ทำเป็นพื้นที่แก้มลิง ในการรองรับน้ำ ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้ถึง 500,000 ลูกบาศก์เมตร ขณะเดียวกัน พ.ท.วันชนะ ยืนยันว่าทางทหารพร้อมช่วยเหลือในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการดูแลทำความสะอาดระบบระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่ประมาท ทางกองทัพ ได้เตรียมแผนเผชิญเหตุ เพื่อรับมือหากสถานการณ์น้ำท่วมบานปลาย แต่ในขณะนี้สถานการณ์ยังไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น แกมีถล่มเขื่อนลำประทาว-น้ำจ่อทะลักชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ยังได้รับอิทธิพลจากพายุแกมี เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งวันในหลายอำเภอ และโดยเฉพาะโซนบนเทือกเขาภูแลนคา เขตรอยต่อ 3 อำเภอ ที่ อ.เมือง อ.แก้งคร้อ และ อ.หนองบัวแดง ทำให้มีปริมาณล้นสันเขื่อนลำประทาวสูงไกลจุดเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายประสบ จงรั้งกลาง หัวหน้าโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้จากอิทธิพลพายุแกมี ล่าสุดเกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาภูแลนคา มาตลอดทั้งวันต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้จนปัจจุบัน จากสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำประทาว ซึ่งแบ่งเป็น 2 ช่วงของเขื่อนตอนบน ซึ่งมีความจุทั้งหมด 44 ล้าน ลบ.ม. เดิมที่เหลือน้ำในเขื่อนไม่ถึง 80% ล่าสุด มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 100% ใกล้เต็มความจุของเขื่อนลำประทาวตอนบน แล้ว ซึ่งยังมีฝนตกต่อเนื่อง จนขณะนี้ทำให้น้ำใกล้ล้นสันเขื่อนตอนบน เหลือความจุใกล้ล้นสันเขื่อน อีกเพียง 45 ซ.ม.เท่านั้นรวมทั้ง ในส่วนเขื่อนลำประทาวในตอนล่าง ที่มีความจุดเดิมรวมเต็มปริมาณเก็บกักได้ทั้งหมด 16 ล้าน ลบ.ม. เต็ม 100% แล้ว ล่าสุดน้ำจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลลงมาสมทบเพิ่มสูงขึ้น จนขณะนี้ เขื่อนลำประทาวตอนล่าง ก็ได้เกิดน้ำล้นสันเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง สูงกว่า 26 ซ.ม.แล้ว ซึ่ง ทางเขื่อนต้องเร่งระบายน้ำออกนอกเขื่อนให้ผ่านเข้าเชื่อมลำห้วยเสว ผ่านเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ทั้ง 25 ชุมชนต่อเนื่อง เพื่อที่จะต้องรอดูสถานการณ์ ว่า จะมีฝนตกหนักลงมาต่อเนื่องบนเทือกเขาภูแลนคา อีกนานเท่าใด