เกาะติดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

เกาะติดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

เกาะติดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความเคลื่อนไหว

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หลังจากเมื่อเวลา 00.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ได้เปิดหีบเลือกตั้งในเมืองดิกซ์วิลล์ นอทช์ และฮาร์ท ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็ก
2 เมือง ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ไปแล้ว และเมื่อ 06.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 18.00 น. วันนี้ตามเวลาไทย ได้เปิดหีบเลือกตั้งในรัฐเวอร์จิเนีย, อินเดียนา, นิวแฮมป์เชียร์ และ นิวยอร์ก ซึ่งมีประชาชน ทยอยออกมาลงคะแนนต่อเนื่อง

หลังจากนั้น 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 18.30 น.ตามเวลาไทย ได้เปิดหีบเลือกตั้งเพิ่มในรัฐนอร์ทแคโรไลนา, โอไฮโอ แล้ว ส่วนในเวลา 07.00 น. หรือ 19.00 น. ตามเวลาไทยจะเปิดหีบเลือกตั้งในรัฐ เพนซิลวาเนีย, มิสซูรี และฟลอริดา

นโยบายของทั้งคู่

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 2012 นับเป็นครั้งที่ 57 โดยครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ซึ่งคู่ชิงสำคัญในการแข่งขันครั้งนี้ คือ นายบารัค โอบามา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและเป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครต กับ นายมิตต์ รอมนีย์ นักธุรกิจมหาเศรษฐี และอดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน

นอกเหนือจากนโยบายทางด้านการเมืองแล้ว นโยบายซึ่งถือว่าค่อนข้างสำคัญอย่างยิ่งไม่แพ้กันก็คือ นโยบายด้านเศรษฐกิจที่ทั้ง นายบารัค โอบามา และ นายมิตต์ รอมนีย์ ได้เสนอต่อสังคมเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ หลังจากที่ผลสำรวจของโพลหลายสำนักชี้ว่า คะแนนนิยมของบุคคลทั้ง 2 ต่างมีความใกล้เคียงกันอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบนโยบายสำคัญของ 2 คู่ชิงประธานาธิบดี สามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้

นโยบายด้านเศรษฐกิจของนายโอบามาจากพรรคเดโมแครต ประกาศนโยบายงดเว้นการเก็บภาษี ครัวเรือนชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 250,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปซึ่งใช้มาตั้งแต่สมัยนายจอร์จดับเบิ้ลยู บุช เป็นประธานาธิบดี ขณะที่พรรครีพับลีกันจะยังคงนโยบายดังกล่าวให้เป็นนโยบายถาวร รวมถึงนายรอมนีย์ที่นโยบายอนุรักษ์นิยมและประกาศตอบโต้การค้ากับจีนทุกรูปแบบขณะที่นายโอบามา ชูมาตรการผ่อนปรน พร้อมสร้างประโยชน์ทางการค้า

ด้านนโยบายสาธารณสุข นายโอบามามีนโยบายดูแลสุขภาพชาวอเมริกันครอบคลุมกว่านโยบายของนายรอมนีย์ รวมไปถึงนโยบายด้านสังคมที่นายโอบามา ค่อนข้างเสรีและสนับสนุนสิทธิการแต่งงานของกลุ่มคนรักร่วมเพศ ขณะที่นายรอมนีย์ต่อต้านนโยบายดังกล่าว และที่ค่อนข้างเป็นที่จับตาของสังคมอย่างนโยบายการทำแท้งนั้นนายโอบามาสนับ สนุนนโยบายดังกล่าว ขณะที่นายรอมนีย์ต่อต้านนโยบายการทำแท้ง

ส่วนนโยบายที่แตกต่างระหว่าง 2 พรรคนี้ คือ นายรอมนีย์ต้องการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารส่วนโอบามาต้องการตัดงบค่าใช้จ่าย โดยในช่วงก่อนหน้านี้รัฐบาลโอบามาได้ตัดงบประมาณด้านการทหารไปแล้วครั้งหนึ่ง ทว่านายรอมนีย์กลับต้องการเพิ่มบทบาทของสหรัฐฯในการ จัดการกับปัญหาการเมืองโลกด้วยตนเอง โดยไม่ผ่านการจัดการขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศเช่นในกรณีปรากฎการณ์ อาหรับสปริง รวมไปถึงกรณีความขัดแย้งกับจีนส่วนโอบามาต้องการยึดหลักความร่วมมือระหว่างนานาชาติ และใช้กลไกขององค์กรต่างประเทศที่มีอยู่ในการจัดการกับปัญหา

ขณะที่ผลสำรวจหลายสำนักต่างชี้ว่า คะแนนนิยมของนายโอบามา และนายรอมนีย์ ยังคงมีความสูสีอย่างสูง และเมื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มต้นขึ้นแล้วที่รัฐนิวแฮมเชียร์ ซึ่งเป็นนพื้นที่แรกเมื่อคืนนี้ ( 6 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ผู้สมัครทั้ง 2 คน ต่างเดินหน้าหาเสียงในสวิงสเตท เพื่อเรียกคะแนนให้ได้มากที่สุดในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ยังคงต้องจับตาดูต่อไปว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะเลือกใครเป็นผู้นำซึ่งจะได้รู้ผลกันในไม่ช้า...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook