ไทยพ่ายปารากวัย2-3 ลุ้นเข้ารอบอันดับ3ดีที่สุดต่อ

ไทยตกเป็นฝ่ายตามหลังปารากวัยไปถึง 0-3 ก่อนจะไล่บี้มาแพ้ 2-3 ส่งผลให้ยูเครน กับ ปารากวัย จูงกันเข้ารอบ ปล่อยไทยเป็นที่ 3 ต้องไปลุ้นกับที่ 3 กลุ่มอื่นๆต่อ หากวันที่ 8 พ.ย. อิหร่านชนะปานามาอย่างน้อย 2 ประตู และ อาร์เจนติน่าชนะออสเตรเลียเท่าไรก็ได้ ไทยจะเข้ารอบแน่นอน

ปารากวัย 3-2 ไทย

คู่ชี้ชะตาที่ชาวไทยรอคอย ในศึกฟุตซอลเวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2012 ของกลุ่มเอ วันที่ 7 พ.ย. 2555 เวลา 19.00 น. ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม ไทย อันดับ 14 ของโลก เจอกับ ปารากวับ ที่อยู่อันดับ 10 ก่อนแข่งไทยมี 3 คะแนน หากชนะจะเข้ารอบทันที ถ้าเสมอหรือแพ้ต้องลุ้นผลคู่ระหว่างยูเครนกับคอสตาริกา ส่วนปารากวัยมีแค่ 1 คะแนน ต้องชนะสถานเดียว

ผู้เล่นชุดแรกของไทยไม่มี กฤษดา วงษ์แก้ว ที่ติดโทษแบน แต่ว่า วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ โค้ชทีมชาติไทย ได้ข่าวดีเมื่อ ประกิต ด่านขุนทด ฟิตทันลงเล่นเป็นผู้รักษาประตูตัวจริง พร้อมทั้ง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ได้เล่น 5 คนแรกแม้ร่างกายยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม ส่วนอีก 3 คน ได้แก่ ก้องหล้า เหล็กกล้า, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร และ เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ ขณะที่ ปารากวัย ที่มี เฟร์นันโด เลอิเต้ เป็นโค้ช จัดชุดแรกประกอบไปด้วย คาร์ลอส เอสปิโนญ่า (GK), ฟาบิโอ อัลคาราซ (C), โจเซ่ หลุยส์ ซานทานเดอร์, อดอลโฟ่ ซาลาส และ ฆวน ซาลาส

ต้นเกมไทยเน้นความชัวร์ในการครองบอล ถึง น.3 เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ รับใบเหลืองเป็นคนแรกจากการไปสกัดคู่แข่งในจังหวะสวนกลับ น.4 ปารากวัยนำ 1-0 อดอลโฟ่ ซาลาส ยิงจากริมเส้นฝั่งขวาราว 8 เมตร บอลเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม

น.5 กาเบรียล อยาล่า ไปฟาวล์ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง รับใบเหลืองเป็นคนแรกของปารากวัย จากจังหวะนี้ เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ ปั่นฟรีคิก 7 เมตรเยี้องไปทางซ้ายของเขตโทษ คาร์ลอส เอสปิโนญ่า ป้องกันออกหลังไปได้ ถัดมาไทยยังได้ลุ้นอีกหลายจังหวะแต่ก็เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา

น.7 ปารากวัยขยับเป็น 2-0 จากฟรีคิกที่ติดกำแพง บอลขลุกขลิกอยู่หน้าประตูก่อนที่ เรเน่ บิลญัลบา จะแตะสั้นๆให้กับ เอ็มมานูเอล อยาล่า ต่อมา น.10 ปารากวัยนำห่าง 3-0 ตั้งแต่ครึ่งทางของครึ่งแรก โจเซ่ หลุยส์ ซานทานเดอร์ ยิงไปติด ประกิต ด่านขุนทด แต่ยังไม่พ้นอันตราย ฆวน ซาลาส ซ้ำจากระยะ 3 เมตรในเขตโทษฝั่งขวาเข้าไปง่ายๆ

น.11 ไทยเริ่มมีหวังจากจังหวะที่บอลขลุกขลิกหน้าเขตโทษ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กลับตัวยิงบนเส้น 6 เมตรพอดี ส่งบอลข้ามเส้นให้ไทยไล่มา 3-1 ไทยมีโอกาสได้เพิ่มหลายครั้งโดยเฉพาะ น.16 อารีฟ อาหามะ แทงทะลุช่องจากกราบซ้ายมาในเขตโทษให้ เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ สไลด์มาเปลี่ยนทางบอลก็ยังไปตรงตัว คาร์ลอส เอสปิโนญ่า

เข้าสู่ครึ่งหลัง น.25 เสียงเฮดังกระหึ่มอินดอร์ สเตเดี้ยม เมื่อแข้งช้างศึกบี้มา 3-2 อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ เตะคิกอินจากฝั่งซ้ายให้กับ เจษฎา ชูเดช สับไกด้วยซ้ายข้างถนัดจากระยะราว 6 เมตร ส่งบอลเสียบใต้คานอย่างหมดจด

มาถึงตรงนี้ปารากวัยเริ่มจะเครียดเพราะหากถูกตีเสมอจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเป็นอันดับสุดท้ายทันที ส่วนหากได้อีกประตูก็จะเข้ารอบเป็นที่ 2 ค่อนข้างแน่ เพราะอีกสนามที่แข่งพร้อมกันยูเครนนำห่างคอสตาริกาไปไกลถึง 6-1 หลังจากผ่านมา 35 นาที

น.35 ปากรากวัยเกือบได้ประตูที่ 4 จากการสวนกลับ อดอลโฟ่ ซาลาส จิ้มจากริมเส้นฝั่งซ้าย ฆวน ซาลาส ล้มตัวยิงโล่งๆแต่โชคดีที่ ประกิต ด่านขุนทด ยังช่วยไทยไว้ได้ จากนั้นทั้งคู่เปิดเกมแลกกันสนุกชนิดกองเชียร์หัวใจแทบวาย

น.39 ไทยได้ลุ้น 2 หนติดๆ เจษฎา ชูเดช ยิงจากกราบขวา คาร์ลอส เอสปิโนญ่า ปัดทิ้งออกหลังไปได้ อีกจังหวะ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ กระชากขึ้นมาทางซ้ายแล้วสับไกมุมแคบ คาร์ลอส เอสปิโนญ่า เซฟได้อย่างหวุดหวิด สุดท้ายไล่ตีเสมอไม่ได้ ปารากวัย ชนะ 3-2

ในกลุ่มนี้ ยูเครน มี 7 คะแนน เข้ารอบเป็นที่ 1 ปารากวัย 4 คะแนน เข้ารอบเป็นที่ 2 ส่วนไทยมีลุ้นเข้ารอบสูงด้วยการเป็นที่ 3 ที่ดีที่สุด 4 อันดับแรก โดยต้องลุ้นผลการแข่งขันในวันที่ 8 พ.ย. ให้ อิหร่านชนะปานามาอย่างน้อย 2 ประตู และเชียร์อาร์เจนติน่าชนะออสเตรเลียเท่าไรก็ได้ ไทยจะเข้ารอบแน่นอน

ปารากวัย 3-2 ไทย