พท.จ่อยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบคุณสมบัติส.ส.อภิสิทธิ์

พท.จ่อยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบคุณสมบัติส.ส.อภิสิทธิ์

พท.จ่อยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบคุณสมบัติส.ส.อภิสิทธิ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบคุณสมบัติของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังจาก กระทรวงกลาโหม มีมติถอดยศ นายอภิสิทธิ์ ในการใช้เอกสารเท็จ สมัครรับราชการทหาร โดยในสัปดาห์หน้า พรรคเพื่อไทย จะยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบความเป็นคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของ นายอภิสิทธิ์ พร้อมทั้งยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า สามารถเป็น ส.ส.ได้หรือไม่ นอกจากนี้ ส่วนตัวขอเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ นำหลักฐานการผ่อนผันทหารออกมาเปิดเผยต่อประชาชนก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อย่างไรก็ตาม โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังระบุด้วยว่า ในวันที่ 12 พ.ย. จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจเงินแผ่นดิน และในวันที่ 14 พ.ย. จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารกรุงเทพมหานคร หลังจากตรวจสอบพบว่า มีความไม่ชอบมาพากลในการก่อสร้างสนามฟุตซอล อารีนา หนองจอก ปชป. ชี้ 'สุกำพล' มีใบสั่ง ถอดยศ 'อภิสิทธิ์' นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณีการปลดออกจากราชการ และการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าในการดำเนินการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในเรื่องดังกล่าว เป็นการกระทำที่มีใบสั่งจากผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาล และเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองเพื่อหวังลดความน่าเชื่อถือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ และพรรคฝ่ายค้าน พร้อมกันนี้ นายองอาจ ระบุว่า การรีบสุรปในกรณีดังกล่าวเพื่อหวังผลให้ นายอภิสิทธิ์ ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.และทำให้การอภิปรายเกิดปัญหา เพื่อที่ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี จะได้ไม่ถูกอภิปรายและถอดถอน นอกจากนี้ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ นายอภิสิทธิ์ จะให้ ทนายความไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่า การดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักกฎหมายหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ มีความมั่นใจว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว ไม่ควรพูดให้สังคมสับสน เพราะอาจถูกดำเนินการได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook