ฟุตบอล : มิเชล พลาตินี่ เดินแผนเจ้าภาพร่วม12ชาติ ยูโร2020

เอาจริงเหรอ!? 'นโปเลียน' สั่งผลักดันแผนเจ้าภาพ 12 ชาติร่วมจัด ยูโร 2020 นัดถกเครียด 7 ธ.ค.นี้ ก่อนให้ลงคะแนนอนุมัติโปรเจ็คต์ ม.ค.ปีหน้า หวังขยายทัวร์นาเม้นต์ให้ใหญ่ขึ้น

มิเชล พลาตินี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เดินหน้าผลักดันแผนการจัดการแข่งขัน ยูโร 2020 แบบกระจายไปทั่วทั้งทวีปด้วยการให้มีเจ้าภาพมากถึงราว 12 ชาติอย่างจริงจังแล้ว

โดยจะจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ยูฟ่า ถึงเรื่องนี้กันในวันที่ 7 ธ.ค.ก่อนจะไปลงคะแนนอนุมัติแผนการนี้กันในช่วงเดือน ม.ค.ปีหน้า

บิลด์ สื่อเยอรมันชื่อดังรายงานว่าโปรเจ็คต์สุดอลังการของ "นโปเลียนลูกหนัง" จะทำให้มีเจ้าภาพมากถึง 12 เมืองและจะใช้เพียงเมืองเดียวในแต่ละประเทศเจ้าภาพซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นๆ จะได้เป็นทีมวางและผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาได้หรือไม่ โดยชาติที่จะได้เป็นทีมวางนั้นจะต้องผ่านรอบคัดเลือกและเป็นชาติยุโรปซึ่งมีอันดับโลกดีที่สุด 12 อันดับแรก
 
ยูโร 2020 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมที่เคยมี 16 ทีมก็จะเป็น 24 ทีม โดยทีมวางทั้ง 12 ทีมจะถูกแบ่งออกไปอยู่ตามกลุ่มๆ ละสองทีมซึ่งก็จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มและในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วย ส่วนในรอบก่อนรองชนะเลิศจะเล่นกันที่สนามเป็นกลาง ขณะที่รอบรองและรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในประเทศเจ้าภาพชาติที่ 13
 
สื่อดังเจ้าเดิมรายงานอีกว่าหากอ้างอิงตาม "ฟีฟ่า แรงกิ้ง" หรือ อันดับโลกปัจจุบันแล้ว เมืองที่จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพก็จะเป็น เบอร์ลิน (เยอรมัน), มาดริด (สเปน), ลิสบอน (โปรตุเกส), โรม (อิตาลี), ลอนดอน (อังกฤษ)
 
รวมไปถึง อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์), มอสโกว (รัสเซีย), ซาเกร็บ (โครเอเชีย), เอเธนส์ (กรีซ), บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์), ปารีส (ฝรั่งเศส) และ บรัสเซลล์ (เบลเยียม) โดยมี อิสตันบูล (ตุรกี) เป็นตัวเต็งสำหรับเป็นสถานที่จัดรอบชิงชนะเลิศ
 
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ พลาตินี่ บังเกิดไอเดียสุดบรรเจิดในการให้มีเจ้าภาพมากถึงหนึ่งโหลสำหรับ ยูโร 2020 ก็เนื่องจากตำนานทีมชาติฝรั่งเศสต้องการจะขยายทัวร์นาเม้นต์ให้มีจำนวนทีมที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายให้เพิ่มมากขึ้น

และเชื่อว่าเจ้าภาพเดี่ยวหรือร่วมเพียงสองชาตินั้นไม่สามารถจะรับมือกับค่าใช้จ่ายมหาศาลได้