UN-USAเดินหน้าหยุดยิงอิสราเอล-ปาเลสฯ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางสู่เมืองรามัลเลาะห์ ในเขตเวสต์แบงก์ และได้เข้าหารือกับ นายมาห์มูด อะบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ โดยมีผู้ประท้วงเดินประท้วงอยู่ด้านนอก เพื่อแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ มีท่าทีหนุนอิสราเอลโจมตีปาเลสไตน์ โดยอ้างการป้องกันตัว ก่อนที่จะเดินทางมุ่งหน้าต่อไปยังประเทศอียิปต์ เพื่อหารือกับผู้นำอียิปต์ ที่พยายามเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่าง 2 ฝ่าย ให้ได้ข้อตกลงหยุดยิง ท่ามกลางความหวังที่ค่อนข้างจะแทบไม่มีทางเกิดขึ้น ขณะที่ทาง ด้านนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ที่เดินทางสู่เขตเวสต์แบงก์ และพูดคุยกับ นายซาลาม ฟาอัด นายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์ เพื่อเร่งกระบวนการหยุดยิง ซึ่งก็ยังไม่มีรายงานท่าทีออกมาจากทางฝั่งปาเลสไตน์ คาร์บอมบ์กองบัญชาการกองทัพอิสราเอล เจ็บ 13สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นบนรถโดยสาร ในเมืองใกล้กับกรุงเทลอาวีฟ เมื่อช่วงเที่ยงวัน ตามเวลาท้องถิ่นของอิสราเอล โดยจุดที่เกิดเหตุ อยู่ใกล้ๆ กับกองบัญชาการกองทัพอิสราเอล แรงระเบิดทำให้กระจกหน้าต่างทั้งด้านข้าง และด้านหลังของตัวรถ แตกกระจาย และมีรายงานผู้บาดเจ็บ 10 คน 3 คน อาการสาหัส โดย ตำรวจอิสราเอล ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย และกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีผู้นำระเบิดมาวางทิ้งไว้บนรถ หรือเป็นการก่อเหตุของมือระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่ มีรายงานว่า กลุ่มฮามาส ออกมาแสดงความชื่นชมผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้เหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ ต่างโจมตีโต้ตอบกันต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดยมีรายงานว่า ปาเลสไตน์ยิงจรวดเข้ามาตกใส่บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้อิสราเอล ทำให้บ้านเสียหาย แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ซึ่ง ทางการอิสราเอล ประเมินว่า การเพิ่มพื้นที่โจมตีของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ทำให้ประชาชนที่อยู่ในรัศมีทำลายล้างของจรวด เพิ่มจาก 1,000,000 คน เป็น 3,500,000 คน กองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นมา กลุ่มติดอาวุธยิงจรวดเข้ามาในอิสราเอล และตกลงในอิสราเอล 17 ลูก ขณะที่ ระบบป้องกันไอรอน โดม สกัดไว้ได้ 12 ลูก