ศึกอภิปรายวุ่น! ฟากรัฐบาลร้องปชป.ตีกินพาดพิงนายกฯ

ศึกอภิปรายวุ่น! ฟากรัฐบาลร้องปชป.ตีกินพาดพิงนายกฯ

ศึกอภิปรายวุ่น! ฟากรัฐบาลร้องปชป.ตีกินพาดพิงนายกฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวลา 20.10 น. วันที่ 25 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่รัฐสภา นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ขณะเป็นรมช.คมนาคม ทำผิดกฎหมายการรถไฟของประเทศไทยมาตรา 37 และกฎหมายคุณสมบัติพนักงานรัฐวิสาหกิจกรณีที่พล.ต.ท.ชัจจ์และครม.มีมติรับรองและแต่งตั้งนายประภัสร์ จงสงวน เป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรณีที่บอร์ดการรถไฟเปิดให้มีการสรรหาผู้ว่าการรถไฟคนใหม่ จนมีการเลือกนายประภัสร์เป็นผู้ว่ารฟท. 

 ขอตั้งข้อสังเกตุว่า การพัฒนาพื้นที่การรถไฟบริเวณกม.11 มูลค่า 1.5แสนล้านบาท และแผนพัฒนาพื้นที่มักกะสัน 3แสนล้านบาท เนื่องจากทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จึงเป็นการล็อกสเป็กเอาคนของตนเองมาทำหน้าที่ อีกทั้งนายประภัสร์ ยังเคยลงสมัครผู้ว่ากทม. ของพรรคเพื่อไทย มาเป็นผู้ว่ารฟท. นำเสนอครม. ทั้งที่ขัดคุณสมบัติ จนครม.ออกเป็นมติ ถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายและทำความผิดสำเร็จแล้ว เนื่องจากคุณสมบัติผู้จะเป็น มีการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะเป็นต้องไม่เคยมีตำแหน่งทางการเมืองและหากเป็นผู้นำองค์กรของเอกชนต้องเป็นองค์กรที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทต่อไป และต้องเป็นผู้บริหารหรือรองผู้บริหารองค์กร ซึ่งนายประภัสร์ขาดคุณสมบัติทั้งสองข้อก่อนหน้าเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เพิ่งลาออกเมื่อ 21มิ.ย.55 และได้ตรวจสอบเอกสารรายงานของรฟม.ปี 2549-2550 และตรวจสอบข้อมูลจากสตง.พบว่าปี 2550 รฟม.มีรายได้ไม่ถึง 5พันล้านบาท ปี 2551 มีรายได้ 529 ล้านบาท ดังนั้นมติครม.เมื่อ 9พ.ย.2555 พล.ต.ท.ชัจจ์และนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบที่แต่งตั้งบุคคลที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่ต่อความผิดทางกฎหมาย

 เมื่อถึงช่วงนี้นายเจริญ ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมได้ทวงถามญัตติการถอดถอนมีเพียงแต่พล.อ.อ.สุกำพลและพล.ต.ท.ชัจจ์ แต่ไม่มีถึงนายกฯ และตนยังไม่ได้รับ จากนั้นส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ประท้วงว่าฝ่ายค้านมีพฤติกรรมตีกิน ส่งญัตติไม่ครบถ้วน โดยนายจุรินทร์ ชี้แจงว่าได้ยื่นถอดถอน 2 ฉบับ ส่วนของนายกฯ จะยื่นต่อเมื่อจะได้มีการอภิปราย ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงว่า หากจะโทษก็ต้องโทษประธานสภาฯ  เพราะเรื่องนี้ได้ยื่นญัตติการถอดถอนรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีไว้แล้ว ซึ่งได้หารือต่อประธานสภาฯไว้แล้วว่าจะส่งญัตติของนายกฯก่อนการอภิปราย จึงทำให้เกิดการโต้เถียง แต่นายเจริญก็ยังยืนยันว่า ถ้ายังไม่ยื่นญัตติของนายกฯจะลบคำอภิปรายของนายนครทั้งหมด ออกจากบันทึกรายงานการประชุม เพราะถือว่าไม่อยู่ในญัตติ และได้สั่งพักการประชุม 10 นาที เพื่อให้วิปทั้ง 2 ฝ่ายไปหาข้อยุติ

“นคร”ยอมถอย ถอนคำอภิปรายทั้งหมด

จากนั้น เมื่อเวลา 22.00น.จึงได้มีการอภิปรายต่อไป อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ เพราะแม้นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก จะถอนคำพูด แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยที่อภิปรายว่า ต้องการให้มีการลบคำอภิปรายของนายนครทั้งหมดและขอโทษประชาชนด้วย เพราะสิ่งที่ นายนคร อภิปราย เปรียบเสมือนการตีกิน กล่าวหารัฐมนตรีไปถึง 40 นาที และหากพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย เกิดตกใจ เป็นอะไรไปนายนคร จะรับผิดชอบอย่างไร ขณะที่นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายเห็นด้วยกับ นายพิเชษฐ์ พร้อมทั้งย้ำว่า สิ่งที่ นายนคร ทำไม่ได้เป็นการทำผิดข้อบังคับเท่านั้น แต่ผิดรัฐธรรมนูญ 

 ทั้งนี้ ภายหลังถกเถียงกันนานกว่า 10 นาที นายนคร จึงยอมถอนการอภิปรายออกไปทั้งหมด ทำให้นายเจริญ สรุปว่า เรื่องดังกล่าวที่ นายนคร อภิปรายมาเป็นอันยุติทั้งหมด จะไม่มีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ที่มา ข่าวสด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook