เสธ.อ้ายลาออกปธ.ศิษย์เก่าตท.ปัดรับเงินทักษิณเลิกม็อบ
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ย้ำว่า เหตุผลที่ยุติการชุมนุมนั้น เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และที่มีคนมาชุมนุมจำนวนน้อย เนื่องจากถูกสกัดกั้นจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้พร้อมมีความแตกแยกภายใน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีคนโทรศัพท์มากดดัน หรือรับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติการชุมนุมแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน พล.อ.บุญเลิศ ระบุว่า ไม่กังวลที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ในข้อหากบฏ และได้เตรียมฟ้องกลับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน โดยกำลังให้ทีมกฎหมายพิจารณาว่าจะฟ้องเรื่องอะไร ทั้งนี้ ตนเองกำลังทำหนังสือเพื่อลาออกจากประธานมูลนิธิศิษย์เก่าเตรียมทหาร เพราะรู้สึกน้อยใจทหาร ที่ไม่ออกมาช่วยเหลือผู้ชุมนุม ที่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง ส่วนองค์การพิทักษ์สยาม จะมีอยู่หรือไม่นั้น คงต้องแล้วแต่ภาคีเครือข่ายจะพิจารณา เพราะตนเอง ได้ประกาศยุติบทบาทไปแล้ว แต่ทั้งนี้ หากพบว่ามีการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็พร้อมออกมาปกป้องทุกเมื่อ พท.แจ้งตร.ฟันเสธ. อ้ายกับพวกก่อกบฏหลังชุมนุม24พ.ย.นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อม นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง และขอหากบฏและซ่องโจร จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พล.อ.บุญเลิศ แกนนำองค์การพิทักษ์ ได้มีการจัดให้มีการร่วมชุมนุมปราศรัยใหญ่ขึ้น และเกิดการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีการปาระเบิดแก๊สน้ำตาใส่กัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้ง มีการนำอาวุธ มีด เหล็กแหลม ลูกแก้ว และ ปืน เข้ามาในพื้นที่ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อเป็นการขับไล่รัฐบาล ทั้งนี้ ได้นำภาพบันทึกเหตุการณ์จากเว็บไซต์และข่าวจากสื่อมวลชน ในเหตุการณ์ช่วงที่มีการชุมนุม มายื่นเป็นหลักฐานด้วย ทนายความ นปช. แจ้งความ "เสธ.อ้าย" และพวก ก่อกบฏแล้วนายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความดำเนินกับ พล.อ.บุญเลิศ เเก้วประสิทธิ์ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี พล.อ.ณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ นายไทกร พลสุวรรณ และ เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ประกอบมาตรา 80 เนื่องจาก พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ต.ค. จนถึงวันที่ 24 พ.ย. 2555 ว่า มีเจตนาร่วมกันกระทำความผิด ฐานพยายามล้มล้างรัฐบาล แต่การกระทำไม่บรรลุผล เพราะทหารไม่ได้ออกมายึดอำนาจรัฐบาล จึงเป็นการพยายามกระทำความผิด และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ทั้งนี้ นำพยานเอกสาร ซีดี มอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีการสืบสวนสอบสวนต่อไป โดย นายคารม กล่าวว่า ในส่วนของการเเจ้งความดำเนินกับ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เนื่องจากเชื่อว่าอาจมีผู้อยู่เบื้องหลังการร่วมชุมนุมครั้งนี้ พร้อมตรวจสอบข้อมูลกรณี พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ อดีต ผบก.น.6 เนื่องจากมีหลักฐานว่ามีการพยายามชักชวนตำรวจเข้าร่วมชุมนุม