เชเฟอร์สุดปลื้มไทยเข้ารอบซูซูกิ ชูมุ้ยคือเบอร์หนึ่งในอาเซียน

เชเฟอร์สุดปลื้มไทยเข้ารอบซูซูกิ ชูมุ้ยคือเบอร์หนึ่งในอาเซียน

เชเฟอร์สุดปลื้มไทยเข้ารอบซูซูกิ ชูมุ้ยคือเบอร์หนึ่งในอาเซียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยสุดปลื้มหลังไทยถล่มเอาชนะเมียนมาร์ 4-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในศึกซูซูกิ คัพ 2012 ได้สำเร็จ พร้อมยกย่อง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ซัดแฮตทริกในเกมนี้ว่าเป็นสุดยอดนักเตะเบอร์หนึ่งในอาเซียนเวลานี้

หลังจากที่ทีมชาติไทย ถล่มเอาชนะทีมชาติเมียนมาร์ ไปได้ 4-0 ในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (27 พ.ย.55)

โดยทีมชาติไทย ได้ประตูจาก ธีรศิลป์ แดงดา คนเดียว 3 ประตู น.20,น.82 และ น.89 อีกประตูได้จาก อภิภู สุนทรพนาเวศ น.59

จากชัยชนะในสเกมนี้ส่งผลให้ไทยได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว โดยจะไปรอพบทีมอันดับ 2 ในกลุ่มบีต่อไป

 
หลังจบการแข่งขัน
 
ด้าน "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีและชื่นชมนักเตะทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรองที่มีส่วนร่วมกับชัยชนะในเกมนี้ การเล่นกับพม่าในวันนี้ไม่ง่าย ในครึ่งแรกเกมค่อนข้างอึดอัดแต่ตนนั้นบอกลูกทีมว่าเราต้องทำประตูให้ได้ และเราก็มาได้ประตูนำ 1-0 
 
ซึ่งในช่วงพักครึ่งตนได้แก้ไขจุดบกพร่องของเราใน 45 นาทีแรกกับการตามประกบ คยี ลิน นักเตะตัวเก่งของเมียนมาร์ ที่ทำให้จังหวะการขึ้นเกมสลับตำแหน่งของ อนุชา และ ธีราทร ไม่เป็นธรรมชาติเพราะต้องคอยมาระวังนักเตะรายนี้และทำให้ทั้งคู่สับสนตำแหน่งกันไปเอง โดยในครึ่งหลังตนได้สั่งให้ อดุล ทำหน้าที่ประกบผู้เล่นหมายเลข 8 ซึ่งก็ทำให้ทางซ้ายของเราทำเกมได้ไหลลื่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น จนมาได้ประตูเพิ่มถึง 3 ประตู
 
และที่สำคัญก็คือสำรองทั้ง 3 คนที่ส่งลงไปทั้ง อภิภู,อาทิตย์ และ สมปอง ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีมากและมีส่วนร่วมกับประตูในช่วงครึ่งหลังด้วย และประตูที่ยอดเยี่ยมในเกมนี้ตนขอยกให้จังหวะที่ ธีราทร เปิดบอลให้ ธีรศิลป์ ได้เข้าไปยิงลูกที่ 3 ซึ่งถือเป็นการจ่ายที่ยอดเยี่ยมของ ธีราทร และจบสกอร์ที่สุดยอด ของธีรศิลป์ โดยเฉพาะ "เจ้ามุ้ย" ที่ทำแฮตทริกในเกมนี้เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือกองหน้าและนักเตะที่ดีที่สุดในอาเซียนเวลานี้ ทีมชาติไทยโชคดีมากที่มีเขาอยู่ในทีม" "วินนี่" กล่าว
 
พร้อมกันนี้กุนซือทีมชาติไทยได้กล่าวถึง ภานุพงษ์ วงศ์ษา ปราการหลังกัปตันทีมที่ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมาก และเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมของทีมถือเป็นหัวใจในแนวรับของทีมอย่างแท้จริง รวมไปถึงผู้เล่นคนอื่นๆ อย่าง ธีราทร และ อนุชา ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในเกมแรก เชื่อว่าหากนักเตะไทยเล่นกันได้แบบนี้ทุกนัด เราจะสามารถพัฒนาทีมของเราไปสู่ระดับท็อปของเอเชียได้อย่างแน่นอน"
 
และสำหรับเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่จะต้องเจอกับเวียดนามนั้น "วินนี่" เผยว่า "ในเกมหน้าเราคงจะพักผู้เล่นที่มีคาดโทษใบเหลือง 3 ตำแหน่ง คือ อดุล,ชลทิตย์ และ พิชิตพงษ์ และก็อาจจะเปิดโอกาสให้นักเตะคนอื่นๆ ได้ลงสนามบ้าง และแม้เราจะเข้ารอบแล้วแต่ก็จะไม่ประมาทแน่นอนเพราะเวียดนามนั้นไม่มีทางเลือกต้องพยายามเอาชนะเราให้ได้ ทำให้เรายังต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อรับมือในเกมนี้และเราก็หวังที่จะเอาชนะให้ได้เช่นกัน ซึ่งตนก็หวังว่าแฟนบอลจะเข้ามาให้กำลังใจทีมชาติไทยในเกมสุดท้ายกันอย่างเต็มสนาม และต้องขอบคุณแฟนบอลที่มาตามเชียร์ในวันนี้ด้วย"
 
ในขณะที่ ติน มิน ออง ผจก.ทีมชาติเมียนมาร์ กล่าวว่า "ต้องยอมรับว่าเราสู้ไทยไม่ได้ ไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่งและเล่นได้ดีกว่าเรา ทีมที่ดีกว่าก็ย่อมชนะ
และเกมนี้ก็ดูเหมือนลูกทีมของตนจะเสียความมั่นใจไปหลังเสียประตูแรก ทำให้เกมโดยรวมออกมาไม่ดี แต่อย่างไรก็ตามเรายังหวังที่จะเข้ารอบโดยการเอาชนะฟิลิปปินส์ในเกมนัดสุดท้ายให้ได้"
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของสายเอ จะเล่นกันในวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ในเวลา 20.20 น.ทั้ง 2 คู่ โดยทีมชาติไทย จะพบกับ เวียดนาม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนคู่ระหว่าง ฟิลิปปินส์ พบกับ เมียนมาร์ จะย้ายจากเอสซีจี สเตเดี้ยม มาหวดที่สนามศุภชลลศัย (รอการยืนยันอีกครั้ง)
 
ส่วนในวันพุธที่ 28 พ.ย.นี้ จะเป็นคิวของสายบี ซึ่งเล่นกันที่ประเทศมาเลเซีย ที่สนามบูกิต จาลิล คู่แรก อินโดนิเซีย พบ สิงคโปร์ และคู่ที่ 2 มาเลเซีย เจ้าภาพร่วมพบกับ ลาว
คลิป ทีมชาติไทย  ชนะ เมียนมาร์  4-0

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook