สดศรีเผยส.ส.นปช.ยังไม่เข้าข่ายหมดสมาชิกภาพ

สดศรีเผยส.ส.นปช.ยังไม่เข้าข่ายหมดสมาชิกภาพ

สดศรีเผยส.ส.นปช.ยังไม่เข้าข่ายหมดสมาชิกภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้แกนนำ นปช. ที่มีสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ยังไม่เข้าข่ายหมดสมาชิกภาพ เพราะศาลอาญา ยังไม่พิพากษา ในข้อหาการก่อการร้าย หากสภาพจะสิ้นสุดได้นั้น บุคคลดังกล่าว ต้องถูกศาลพิพากษาจำคุกก่อน จึงจะขาดคุณสมบัติ ส่วนกรณีของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่ไปยื่นขอให้ กกต. วินิจฉัยสถานภาพการเป็น ส.ส. ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีถูกปลดออกจากราชการนั้น สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาแล้ว 2 ประเด็น คือ กรณีถูกถอดยศ ว่าจะขาดการเป็น ส.ส. หรือไม่ และจะทำให้การเป็นสมาชิกของพรรคขาดหรือไม่ ซึ่งให้เวลา 30 วันในการตรวจสอบ หากติดขัดอาจขอเลื่อนเวลาไปได้ แต่จะให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน อธิบดีศาลอาญาไม่หวั่นคดีถอนประกันแดงนายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงการสอบถาม แกนนำ นปช. ซึ่งเป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่หลังจากมีผู้ร้องให้เพิกถอนการประกันตัวกรณีมีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ศาลมีการสอบถามจำเลย ซึ่งเป็น ส.ส.ครบทั้ง 5 คนแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ หลังจากที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการประกันตัว นายก่อแก้ว พิกุลทอง เพิ่มเติมเข้ามา ศาลจึงได้ให้โอกาสทาง นายก่อแก้ว ได้นำข้อเท็จจริงเข้าชี้แจงต่อศาล ซึ่งในเรื่องนี้ ตนได้ให้นโยบายกับทางองค์คณะผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนว่า หากสอบถามเพิ่มเติม นายก่อแก้ว แล้วเสร็จ ควรมีคำสั่งให้ทันภายในวันนี้ ทั้งนี้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากวันนี้ ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัวแกนนำคนใดคนหนึ่ง ส่วนตัวก็ไม่รู้สึกหนักใจเกี่ยวกับมวลชน เพราะทุกคนรู้หน้าที่ของตนเอง และหากศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัว คนใดคนหนึ่งจริง ก็เป็นเพียงการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำผิดสัญญาประกัน และเป็นการปราม เพื่อไม่ให้กระทำผิดเงื่อนไข ในการให้ประกันตัวซ้ำอีก และจำเลยสามารถใช้ช่องทางยื่นประกันตัวได้ เหมือนกรณีของ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก นครบาลวางกำลัง1กองร้อยดูศาลอาญา บรรยากาศที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ล่าสุดขณะนี้ ยังคงมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูแลความเรียบร้อย บริเวณพื้นที่ของศาล อย่างเข้มงวด แต่มีการปรับลดกำลังลงจากเดิม โดยวันนี้ใช้กำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย สน.พหลโยธิน ส่วนหนึ่ง และกำลังตำรวจจราจรกลาง ที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยวันนี้ ศาลอาญา ได้เปิดประตูทางเข้าศาลให้รถยนต์ และประชาชนทั่วไปสามารถเข้า - ออกได้ทางเดียว และประตูด้านข้างสำนักงานอัยการ ก็เปิดให้เดินผ่านเข้ามาได้ แต่ยังคงปิดประตูในส่วนของประตูทางออกศาล นอกจากนี้ ในส่วนของประชาชนทั่วไป ที่มาติดต่อราชการกับศาลอาญา ไม่มีการตรวจเข้มเหมือนเมื่อวานที่ผ่านมา แต่ยังต้องมีการแลกบัตรก่อนเข้าในอาคารของศาลอาญาเหมือนการติดต่อราชการตามเวลาปกติอย่างไรก็ตามขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีมวลชนคนเสื้อแดงเข้ามารอให้กำลังใจแกนนำ นปช. ซึ่งเป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องมารับการไต่สวนการถอนประกันเพิ่มเติม และฟังคำสั่งในช่วงบ่ายวันนี้ แต่อย่างใด วิญญัติบอกก่อแก้วไม่หวั่นหากศาลถอนประกันนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ส่วนตัวยังไม่รู้สึกหนักใจ หลังจากศาลอาญา นัดฟังคำสั่ง ถอนการประกันตัว 5 ส.ส. แกนนำกลุ่ม นปช. ในคดีก่อการร้าย และการร้องขอให้ถอนประกันตัว ตามที่ นายพิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องไว้ เพราะ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงทุกประเด็นแล้ว แต่มีบางส่วนที่ยังค้างจากศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ที่เกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นเรื่องงบประมาณศาลผ่านทางหนังสือพิมพ์ของ นายก่อแก้ว ซึ่งจะมีการไต่สวนในเช้าวันนี้ รวมถึงจะมีการพิจารณาพฤติกรรมที่ผ่านมาว่า มีการปลุกปั่นบ้านเมือง หรือทำการก้าวล่วงหรือไม่ เพราะการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นสิ่งสำคัญมาก ส่วนที่ศาลพิจารณา นายก่อแก้ว เป็นพิเศษ เพราะ นายนิพิฏฐ์ ยื่นคำร้องไว้ และตนเอง ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า เป็นการก้าวล่วงในการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในการตรวจสอบหรือไม่นอกจากนี้ นายวิญญัติ ยังกล่าวว่า วันนี้เวลา 15.30 น. ศาลจะนัดฟังคำสั่งถอนการประกันตัว หากศาลมีคำสั่งให้ถอนก็จะถูกคุมขังทันที ซึ่งประเด็นนี้ นายก่อแก้ว ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เพราะหากถูกคุมขัง ก็พร้อมยอมรับ ส่วนการพิจารณาคดีก่อการร้ายนั้น จะมีการนัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ ทนายก่อแก้วเผยเบิกความศาลเพิ่มวันนี้นายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความของ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมพยานที่จะเบิกความเพิ่มเติมต่อศาลอาญา ในคดีที่ถูกร้องเพิกถอนการประกันตัว หลังมีพฤติการณ์เข้าข่ายการทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว ว่า วันนี้ เตรียมพยานไว้ 2 ปาก คือ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. และพยานส่วนกลาง ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยที่ นายก่อแก้ว พูดบนเวที นปช. เพื่อยืนยันถ้อยคำที่กล่าวปราศรัยว่าไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกันนี้ นายเจษฎา ยังกล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจกับคำร้องที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยื่นเพิ่มเติมต่อศาล ซึ่งในส่วนของ นายก่อแก้ว พร้อมที่จะชี้แจงได้ ส่วนการบรรเทาผลร้าย เช่นเดียวกับที่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เคยลงคำขอโทษตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในหนังสือพิมพ์ หลังจากมีการปราศรัยแล้วนั้น ทนายความระบุว่า กรณีของ นายก่อแก้ว แตกต่างกับของ นายเจ๋ง ดอกจิก จึงยังไม่ต้องมีการบรรเทาผลร้ายดังกล่าว 'ก่อแก้ว'มาศาลแล้วมั่นใจบริสุทธิ์น้อมรับคำตัดสินศาลนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมทีมทนายความ เดินทางมาถึงศาลอาญา รัชดาภิเษก แล้ว พร้อมเปิดใจก่อนเข้ารับการไต่สวนเพิ่มเติมจากศาล ในคดีถอนประกันตัว ว่า วันนี้ ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะได้เตรียมพยานบุคคลไว้ 2 ปาก ที่จะแถลงต่อศาล และยินดีจะตอบคำถามของศาลในทุกกรณี พร้อมกับได้นำหลักฐานอื่น ซึ่งเป็นบทความ บทวิเคราะห์ ที่นักวิชาการ และสื่อมวลชน เคยเขียนวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ โดยส่วนตัว มีความมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง ว่าไม่ใช่กลุ่มฮาร์ดคอร์ แต่ผลคำวินิจฉัยจะออกมาในรูปแบบใดนั้น ขอให้เป็นดุลพินิจของศาล พร้อมกันนี้ นายก่อแก้ว ได้ฝากไปถึงมวลชนว่าหากศาลมีผลการตัดสินออกมาในรูปแบบใด ก็ขอให้น้อมรับนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ก็เดินทางมาถึงศาลอาญา แล้ว เพื่อเป็นพยานให้กับ นายก่อแก้ว รวมถึง แกนนำ นปช. และมวลชนมารอให้กำลังใจส่วนหนึ่ง 'ธิดา'เบิกความช่วย'ก่อแก้ว'ยันเป็นคนสุภาพ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ขึ้นเบิกความต่อศาล เพื่อเป็นพยานให้กับ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยได้แถลงต่อศาล ว่า การก่อตั้ง นปช. ขึ้นมา เพื่อต่อต้านการรัฐประหารเป็นหลัก และจะมีการเคลื่อนไหวตามมติของ นปช. ส่วนการกล่าวปราศรัยของ นายก่อแก้ว ที่หน้าอาคารรัฐสภา นั้น มีสาเหตุมาจาก ศาล รธน. มีหนังสือแจ้งไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแจ้งเรื่องต่อประธานรัฐสภาให้ชะลอพิจารณาลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 เอาไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ทำให้ นายก่อแก้ว ในฐานะ ส.ส.และแกนนำ นปช. ต้องออกมาเคลื่อนไหว ตามมติของ นปช. โดยการยื่นถอดถอน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการล่ารายชื่อประชาชน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามระบบของกฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่า นายก่อแก้ว เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และสิ่งที่ นายก่อแก้ว กล่าวปราศรัยบนเวที นปช. ด้านหน้ารัฐสภานั้น ไม่ได้มุ่งร้ายกับใคร และไม่ได้ต้องการให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมือง 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook