ข่าวสะเทือนใจสะเทือนสังคม ที่สุดแห่งปี 2555
ประมวลข่าวสะเทือนใจสะเทือนสังคมไทย ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2555 รวมประเด็นเด่น คดีดัง กรณีฉาวก้องโลก...
● แม่ลูกชลบุรี ไฟดูด วิญญาณเข้าสิง วอนจับคนร้าย ●
กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากสังคมอีกคดีหนึ่ง สำหรับกรณีแม่และลูกสาววัย 5 ขวบ ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต จากเดิมที่คิดว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา แต่ก็เกิดปรากฎการณ์ที่พิสูจน์ไม่ได้ เมื่อแม่ของสามีผู้เสียชีวิต เกิดอาการคล้ายผีเข้าบอกว่า "เป็นการฆาตกรรม" อ้างว่าคนข้างห้องเช่าปองร้าย อีกทั้งยังเกิดเหตุการณ์ผีเข้าอีกประปราย และเรียกร้องความธรรมในลักษณะนี้ทุกครั้ง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพึ่งวิธีทางไสยศาสตร์มาประกอบรูปคดี
● หนุ่มสระบุรีอาภัพรัก แต่งงานศพแฟนสาว ●
กรณีแต่งงานกับศพแฟนสาวเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ย้อนกลับไปเมื่อหลังเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา หนุ่มสาวชาวสระบุรี มีกำหนดเข้าพิธีมงคลสมรสกัน แต่ เจ้าสาว เกิดป่วยกะทันหันจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบและความดันสูง เพียง 2 วันถัดมา เจ้าสาวก็สิ้นลมหายใจ ทำให้ เจ้าบ่าว ตัดสินใจจัดพิธีสมรสกับแฟนสาวกลางงานศพ ท่ามกลางแขกกว่าพันคน เป็นไปด้วยบรรยากาศแห่งความโศกเศร้า
● ลูกชายเครื่องดื่มชูกำลัง ซิ่งเฟอร์รารี่ชนตำรวจตาย ●
คดีสะเทือนใจที่ได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน รถเฟอร์รารี่ สีดำ พุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ ซึ่งกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ เสียชีวิตทันที โดยคนขับรถคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีเข้าไปที่บ้านหรู ก่อนจะสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นทายาทคนเล็กของเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง และมีการติดต่อเข้ามอบตัวในที่สุด ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
● น้องกอหญ้า อยู่เล่นกับแม่ 3 วัน 3 คืน ●
เป็นเหตุสะเทือนใจคนไทยอีกครั้ง สำหรับ น้องกอหญ้า เด็กหญิงอายุ 3 ขวบเศษ ที่อาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพัง โดยที่ไม่ทราบว่าแม่ได้เสียชีวิตไปอย่างกะทันหันเสียแล้ว น้องกอหญ้า ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับร่างของคุณแม่ภายในบ้าน เป็นเวลากว่า 3 วัน จนกระทั่งชาวบ้านเห็นความผิดปกติ จึงทราบว่าแม่ของน้องกอหญ้าได้เสียชีวิตไปเสียแล้ว แต่ความไร้เดียงของเด็ก 3 ขวบ บอกเล่าตามปกติว่า เธอยังคงใช้ชีวิตอยู่กับแม่ "แม่ยังเล่นและเปิดประตูให้หนูอยู่เลย"
● พริตตี้สาว ฉีดคลอลาเจนช็อกตาย ●
ทั้งสะเทือนใจและเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนรักสวยเติมแต่ง กรณีของ น้องกระแต พริตตี้สาวสวยวัย 33 ปี ที่กลายเป็นข่าวคึกโครม เพราะเกิดอาการช็อก หลังจากที่เข้ารับการฉีดสารคอลลาเจนเสริมสะโพกที่คลีนิกศัลยกรรมแห่งหนึ่ง จนสมองขาดออกซิเจนนานกว่า 4 นาที ทำให้ น้องกระแต ป่วยเข้าขั้นโคม่า กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา สำหรับกรณียังได้กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่เร่งกวดขันคลีนิกศัลยกรรมอย่างผิดกฎหมายอีกด้วย
● ฝรั่งเยอรมันโหด กระหน่ำแทงหมาโกลเด้น ●
เกิดอาการฉุน! เพราะหมากัดกันเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ฟังไม่ค่อยขึ้นสักเท่าไหร่ สำหรับกรณีหนุ่มใหญ่ชาวเยอรมัน ก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง เจ้าโชกี้ สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ จนเสียชีวิตอย่างสลดสยอง ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านในหมู่บ้าน โดยเหตุผลที่อ้างคือ เจ้าโชกี้ กัดกับสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ที่หนุ่มใหญ่เลี้ยงเอาไว้ กรณีดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจแก่กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์และรักสัตว์ ซึ่งขั้นรวมตัวกันชุมนุมขับไล่ให้ ชาวเยอรมัน ผู้นี้แสดงความรับผิดชอบ
● ดราม่าสะเทือนใจ โรงพยาบาลทำสาวท้องตายทั้งกลม ●
ประเด็นสะเทือนใจผู้คนในโลกโชเชียลเน็ตเวิร์ก หลังจากที่ดาราหนุ่มจิตอาสา บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่าด้วยเรื่องราวของสาวท้องแก่ที่ต้องเสียชีวิต พร้อมกับลูกในครรภ์ เพราะโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์เอาไว้ ไม่สามารถทำคลอดให้เธอได้ ต้องโยนเรื่องทำคลอดไปถึง 3 โรงพยาบาล จนกระทั่งมีรายงานว่า สาวท้องแก่เจ็บครรภ์จนกั้นลิ้นและขาดใจตาย ขณะที่อีกฝ่ายตรงกันข้ามได้ออกมาตอบโตว่า สาวท้องแก่เกิดภาวะน้ำคร่ำเข้ากระแสเลือด อีกทั้งโรงพยาบาลไม่พร้อมด้านเครื่องมือทางการแพทย์
● หมอเขมร ขึ้นนวดแก้เบาหวาน นิสิตเสียชีวิต ●
กรณีนิสิตสาว เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียชีวิตคาคลินิกเถื่อนรับรักษาโรคทั่วไป จากหมอชาวกัมพูชา ซึ่งอ้างตัวเป็นตัวแทนพระเยซู คาดว่าประเด็นสะเทือนใจในวงการแพทย์ นิสิตสาวที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ตั้งแต่อายุ 14 ปี ด้วยความเชื่อและคำแนะนำ ครอบครัวจึงพามารักษามีค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 2,000 บาท หมอเขมรที่ใช้เท้าเหยียบก้อนหิน ก่อนจะนำมาเหยียบตามร่าง จนนิสิตสาวหายใจไม่ออกและเสียชีวิต ขณะที่ผลชันสูตรระบุว่า นิสิตสาวเสียชีวิตจากการหัวใจวาย กระเพาะอาหารพบสารบางอย่าง
● ตัดสินคดีดัง สาวซีวิค 9 ศพ ●
คดีความยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี สำหรับอุบัติเหตุอื้อฉาวของสาวซีวิค เมื่อธันวาคม 2553 ล่าสุดในปีนี้คดีสะเทือนขวัญดังกล่าว ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้นำขึ้นมาพิเคราะห์และพิจารณาอย่างเป็นทางการ โดยผลสรุปในท้ายที่สุด ศาลสั่งลงโทษจำคุก 3 ปี แต่ลดโทษให้จำคุก 2 ปี รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี พร้อมสั่งคุมประพฤติจำเลย 3 ปี และห้ามขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี ส่วนประเด็นโทรศัพท์ระหว่างขับรถถือว่าตกไป เนื่องจากไม่มีหลักฐานสนับสนุน นับเป็นบทสรุปส่วนหนึ่งที่เหยื่อผู้สูญเสียพึ่งพอใจ แต่คนในสังคมยังคงฝังลึกอยู่ในใจ
● เด็กหญิงโชคร้าย บันไดเลื่อนหนีบคอ ●
เหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านรังสิต ศีรษะเด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าไปติดอยู่ระหว่างบันไดเลื่อนกับคานระหว่างชั้นของห้าง เป็นภาพที่สยดสยองแก่ผู้ที่ได้พบเห็น เด็กหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ภาวะเลือดคั่งในสมอง และเสียชีวิตในอีกหลายวันต่อมา เช่นเดียวกันกับกรณีที่เกิดขึ้นที่ โรงพยาบาลดังเมืองขอนแก่น เด็กชายวัย 3 ขวบ ถูกบันไดเลื่อนหนีบขา จนข้อเท้าหลุดออกจากกัน นับเป็นกรณีสะเทือนที่เกิดขึ้นกับเด็กบนบันไดเลื่อน จนต้องออกมาตรการล้อมคอกในเวลาต่อมา
● นักเรียนโหด ฟาดเก้าอี้ใส่ป้ากลางสีลม ●
"เหตุเกิดในเมืองไทย แต่ดังที่เมืองนอก" กรณีคลิปวิดีโอฉาวที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้บันทึกเอาไว้และโพสต์ลงเว็บไซต์วิดีโอชื่อดัง แสดงให้เห็นพฤติกรรมของเด็กนักเรียนไทยในเครื่องแบบ ทะเลาะวิวาทกับแม่บ้านสำนักงานรุ่นป้า ก่อนจะใช้เก้าอี้พลาสติกฟาดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง จนสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม่บ้านคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ขณะที่เด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวได้เข้ามอบตัวและลงบันทึกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมตามระเบียบ
● เด็ก 18 ซิ่งมินิชนพลเมืองดี(แล้วหนี!) ●
อีกประเด็นที่เกิดขึ้นกับเยาวชนไทย เริ่มต้นจากกระแสอินเตอร์เน็ตที่ร่วมกันติดตามตัวคนร้ายซิ่งรถมินิคูเปอร์ พุ่งชน 4 นักศึกษาเอกชนชื่อดัง ขณะกำลังทำหน้าที่พลเมืองดีช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนสะพานพระราม 9 จนได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย ชาวเน็ตช่วยกันกดดันและสืบเสาะหาเบาะแส จนกระทั่งพบรถมินิคูเปอร์คันก่อเหตุ ซึ่งมี "อาม่า" วัย 81 ปี เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว กระทั่งสังคมเริ่มกดดันอย่างหนัก ผู้ขับขี่ตัวจริงจึงปรากฎเป็นเพียงเยาวชนอายุ 18 ปี เท่านั้น