มติครม.ฟรีค่าผ่านทางด่วนบูรพาวิถี27ธ.ค.-3ม.ค.

นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติให้มีการยกเว้นค่าผ่านทาง ของด่วนบูรพาวิถีตลอดเส้นทาง รวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2555 จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2556 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่  นอกจากนี้ที่ประชุม ยังมีการอนุมัติแนวทางในการจัดสรรเงินงบประมาณ ให้แก่หน่วยงานราชการและกระทรวงต่างๆ ประจำปี เป็นเงินกว่า 400 ล้านบาท เพื่อมอบเป็นของขวัญและกำลังใจในการทำงานของข้าราชการด้วย ครม.ตั้ง 'อัญชลี' นั่ง ขรก.การเมืองประจำสำนักนายกฯน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ แต่งตั้ง นางอัญชลี บุสสุวัณโณ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอ และได้แต่งตั้ง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทน นายเจตน์ ธนวัฒน์ ที่ได้เกษียณอายุราชการลง นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายยรรยง พวงราช เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพาณิชย์ ในคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรกรล่วงหน้าแทน นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ ที่ได้ขอลาออก เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 โดยให้ดำรงตำแหน่งได้เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  ครม.รับทราบโครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบ ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ ขออนุมัติปรับเปลี่ยน “โครงการคูปองสร้างเสริมอัจฉริยะ” เป็น “โครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ” โดยโครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่จะเจริญพระชนมายุ ครบ 5 รอบ ในปี 2558 และเพื่อกระตุ้นและเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกล รวมทั้งเพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบบ้านหนังสืออัจฉริยะ หรือ ห้องสมุดประชาชนหมู่บ้าน / ชุมชนห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” โดยกำหนดเป้าหมายให้มีในพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 40,000 แห่ง และให้มี บ้านหนังสืออัจฉริยะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และใน 4 อำเภอของ สงขลา จำนวน 1,800 แห่ง และห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" จำนวน 87 แห่ง ครม. อนุมัติ FIDF ใช้หนี้งวดแรก 5 พันล. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้โอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เพื่อคืนเงินชำระเงินต้น ทั้งเงินกู้ และดอกเบี้ย ของ FIDF1 และ FIDF2 เพื่อสมทบเข้ากองทุนสำหรับการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยวงเงินกว่า 5,000 ล้านบาท หลังจากทางธนาคารพาณิชย์ทยอยนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนร้อยละ 0.47 ของฐานเงินฝาก และจากการนำส่งเพิ่มขึ้นบางส่วนยอมรับว่า ไม่กระทบต่อฐานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เพราะยังคงมีผลดำเนินงานได้กำไร โดยในขณะนี้ กองทุนฟื้นฟูมีเงินหมุนเวียนอยู่ในปัจจุบันอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท และทำให้การชำระหนี้ดังกล่าว ไม่เป็นภาระต่องบประมาณของรัฐบาลด้วย ครม.เห็นชอบทุนการศึกษาสอนภาษาต่างประเทศที่สองน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติตามความเห็นชอบของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ในหลักการดำเนินโครงการทุนการศึกษาด้านการสอนภาษาต่างประเทศที่สอง เพื่อผลิตครูในสาขาวิชาที่ขาดแคลน โดยขออนุมัติอัตราข้าราชการครู เพื่อบรรจุผู้รับทุนจำนวน 600 อัตรา ในช่วงปี 2556 - 2561 โดยเฉลี่ย 150 ทุนต่อปี ทั้งนี้ จำนวนทุนต่อปี อาจจะปรับเพิ่ม-ลดไม่เกินร้อยละ 5 ตามสถานการณ์ที่จำเป็น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้ภาษาต่างประเทศและขีดความสามารถในการแข่งขันของคนไทย อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมและความเข้มแข็งสู่ประชาคมโลก และประชาคมอาเซียนตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเร่งรัดพัฒนาคุณภาพการศึกษา ยกระดับองค์ความรู้ให้ได้มาตรฐานสากล ครม.เห็นชอบเก็บค่าธรรมเนียมโอนอสังหาริมทรัพย์น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติเห็นชอบ และรับทราบ ตามที่ กระทรวงการคลัง เสนอให้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร ฉบับที่... พ.ศ. ... รวมถึงเห็นชอบหลักการร่างประกาศ กระทรวงมหาดไทย ในเรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ในกรณีการโอนและจำนองห้องชุดตามมาตราการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการโอนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรการสนับสนุนเขตตรวจพิจารณาพิเศษเฉพาะกิจ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา พร้อมกันนี้ ยังเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกัน ภายใต้วงเงิน ปีละประมาน 20 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังรับทราบผลการดำเนินการมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนโดยธนาคารออมสิน และโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย และประชาชนที่มีรายได้น้อยด้วย ครม.ต่อมาตรการเขตพัฒนาพิเศษชายแดนใต้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของทาง กระทรวงการคลัง สำหรับมาตรการทางการเงินและมาตรการทางภาษี ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังครบกำหนดในวันที่ 31 ธ.ค. 2555 เพื่อขยายระยะเวลามาตรการดังกล่าวออกไปอีก 2 ปี ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556-31 ธ.ค. 2557 ด้วยการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือเพียงร้อยละ 3 และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งการขยายกรอบระยะเวลามาตรการดังกล่าว 2 ปี ถือว่าน่าจะเหมาะสมที่สุด  ครม.เห็นชอบจัดวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติรับทราบ และเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอจัดงานวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2555 ช่วงวันที่ 26 ธ.ค. 2555 และยังเห็นชอบให้ วันที่ 24 - 28 ธ.ค. 2555 เป็นสัปดาห์การป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2555 โดยให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ และฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามความเสี่ยงภัยของแต่ละพื้นที่ รวมถึงมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดการฝึกซ้อมแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยในบริเวณทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในช่วงสัปดาห์การป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติด้วย ครม.อนุมัติงบพันล้าน ซื้อน้ำมันปาล์มดิบน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โรงผลิตไบโอดีเซล และผู้รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบทั่วไป รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 25 บาท จำนวน 50,000 ตัน และได้ให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลผลิตปาล์มทะลายจากเกษตรกรในราคาหน้าโรงสกัด โดยแบ่งเป็นอัตราน้ำมันร้อยละ 17 รับซื้อไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท ส่วนอัตราน้ำมันร้อยละ 18 รับซื้อไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.35 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม เป็นต้นไป ตามที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ได้มีมติในที่ประชุม เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยอนุมัติวงเงินในการดำเนินการดังกล่าว รวมกว่า 1,380.25 ล้านบาท