วราเทพพร้อมรับผลประชามติยันปลายม.ค.เดินหน้า
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงต้นปีแรก ว่า จะยังไม่มีความรุนแรง โดยเฉพาะการเดินหน้าทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่า จะมีความชัดเจน และได้ข้อสรุปช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เนื่องจากขณะนี้ ยังมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันอยู่ 3 แนวทาง จึงอยากให้เหลือเพียงแนวทางเดียวก่อน จึงจะเดินหน้าได้ ทั้งนี้ ยังไม่ขอคาดการณ์ถึงผลการทำประชามติ ว่า ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออก ซึ่งผลจะออกมาแนวทางไหน ก็พร้อมยอมรับ เพราะถือว่าประชาชนได้ชี้วัดแล้ว วราเทพติงฝ่ายค้านไม่ควรรณรงค์คว่ำประชามติ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ฝ่ายค้าน รณรงค์ไม่เห็นด้วย ว่า ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่การขัดขวางขบวนการทำประชามติ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีบรรยากาศที่ต่างกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เนื่องจาก เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างโดยประชาชน ผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และจะกลับมาที่ประชาชนอีกครั้ง ว่าเห็นด้วยหรือไม่ พร้อมขอคณะกรรมการที่รับผิดชอบเรื่องการตั้งคำถามในการทำประชามติ มีการกำหนดประเด็นคำถามตรงไปตรงมา พร้อมมีคำอธิบายให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ และเชื่อว่า จะใช้ระยะเวลา 90 วัน ในช่วงก่อนวันลงประชามติ เพื่อเดินหน้าสร้างความเข้าใจกับประชาชนจะเกิดความตื่นตัวนอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการใช้งบประมาณในการจัดทำประชามติ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประเมินว่า จะใช้งบกว่า 2,000 ล้านบาทนั้น คิดว่า เป็นเรื่องที่คุ้มค่า หากเป็นการหาทางออกให้กับประเทศ และไม่ได้ใช้งบให้ใครคนใดคนหนึ่งอย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าการแก้ไขปัญหาด้านอื่น เพราะถือเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ก็ยังคงมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาประเทศอย่างต่อเนื่อง สุเทพประเมินปีหน้ารบ.เร่งแก้รธน.ช่วยทักษิณ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวประเมินสถานการณ์การเมืองปีหน้า ว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วย พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้พ้นผิด และได้เงินคืน โดยพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ คิดต่าง เพราะสิ่งสำคัญต้องรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ซึ่งจะให้คนบางคน อยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ ดังนั้น ผู้ที่จะตัดสินในเรื่องนี้คือคนไทยทั้งประเทศ ที่มีหน้าที่จะชี้ถูกผิดทางการเมือง แต่หากประชาชนนิ่งเฉยบ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวาย ความเสียหาย และเป็นอันตรายต่อประเทศ เพราะพรรคเพื่อไทย ร่วมมือกับกลุ่มเสื้อแดงเปลี่ยนประเทศ ตามความคิดของตนเอง และสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง จึงเป็นหน้าที่ของประชาชน ต้องช่วยกันให้สติรัฐบาลนายสุเทพ ยังกล่าวเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศอิสรภาพการถูกครอบงำจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และให้ทำเพื่อคนในประเทศ ไม่ใช่คนในครอบครัว ซึ่งรัฐบาลจะฟังเสียง พ.ต.ท. ทักษิณ โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากประชาชน ซึ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับบ้านเมืองอีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า จะรุนแรงเท่ากับอุบัติเหตุการเมืองที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริง เพื่อต้องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่นำไสู่การแก้มาตรา 309นอกจากนี้ นายสุเทพ กล่าวยืนยันถึงจุดยืนทางการเมืองของตนเอง ว่า หากไม่สามารถยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ จะรวบรวมมติมหาชน ทั้งในและนอกสภาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย