เฉลิมพอใจคุยนายกมาเลย์แก้ไฟใต้เชื่อดีขึ้น-รับกินไวน์

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเดินทางกลับจากเข้าพบพบ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่นายกมาเลเซียให้ความกรุณาพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้พบรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ของประเทศมาเลเซียด้วย โดยได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหลังจากนั้น ได้มีการแถลงข่าวร่วมกัน ทั้งนี้ ยังได้มีโอกาสพบกับ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลของมาเลเซีย ซึ่งได้พูดคุยลงลึกในรายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ต้องรอทางกระทรวงการต่างประเทศ สรุปรายละเอียด เพื่อนำเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อีกครั้ง นอกจากนี้ ตนเองยังได้ไปพบและบรรยายพิเศษแก่ผู้ประกอบการร้านต้มยำกุ้งประมาณ 100 คน และหลังจากนั้น ได้ไปพบและพูดคุยกับนักเรียนไทยในมาเลเซีย เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ ตนเองกำลังทำงานในหลายๆ ด้านประกอบกัน เพื่อแก้ไขปัญหา โดยทางมาเลเซียได้รับหลักการณ์เบื้องต้นที่ตนเองเสนอให้เด็กเสิร์ฟในร้านต้มยำกุ้ง สามารถขึ้นทะเบียนได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกชักจูงไปทำสิ่งผิดกฎหมาย เพราะมีร้านต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซียกว่า 6,500 แห่ง ใน 13 รัฐ จึงทำให้มีคนไทยไปทำงานกว่าแสนคน แต่มีคนขึ้นทะเบียนเพียง 6,900 คน เท่านั้น 'เฉลิม' ย้ำแก้ไฟใต้เดินมาถูกทางร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ว่า กำลังรอการยืนยัน เพื่อจะไปเข้าพบ มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เนื่องจาก มหาเธร์ เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้พัฒนาเศรษฐกิจชายแดนมาเลเซียและไทย รวมถึง รอนัดเดินทางไปพบ นายกรัฐมนตรีของประเทศอินโดนีเซีย ในเร็ววันนี้ด้วย ทั้งนี้ยังยืนยันว่า ปัญหาทางภาคใต้ ไม่สามารถแก้ไขภายในประเทศได้เพียงอย่างเดียว โดยเชื่อว่า ขณะนี้ ได้เดินมาถูกทางแล้วแต่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกนาน ยืนยัน ตนเองทำงานร่วมกับกองทัพอย่างใกล้ชิดส่วนกรณีที่มีภาพตนเองปรากฏทางสื่อสังคมออนไลน์ ในลักษณะคล้ายกำลังเมานั้น ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้มีอาการเมา แต่ยอมรับว่าได้มีการดื่มไวน์ไป 8 ขวด กับเพื่อนสนิท 5 คน ที่เคยช่วยเหลือกัน และไม่ได้เจอกันนาน นอกจากนี้ ยังขอยืนยันว่า ไม่ได้ใช้เวลาราชการไปสังสรรค์ โดยในภาพนั้น ตนเองกำลังตบไหล่ผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำประเทศมาเลเซีย ที่มารอเชิญไปรับประทานอาหาร แต่ตนเองก็ได้ปฏิเสธไป เพราะต้องการพักผ่อน พร้อมกันนี้ ยังยืนอีกว่า ไม่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของประเทศมาเลเซีย อยู่ในที่นั้นแน่นอน