"ซิดนีย์"เผชิญอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งทำสถิติสูงสุดเกือบ 46 องศาฯ

"ซิดนีย์"เผชิญอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งทำสถิติสูงสุดเกือบ 46 องศาฯ

"ซิดนีย์"เผชิญอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งทำสถิติสูงสุดเกือบ 46 องศาฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นครซิดนีย์ของออสเตรเลีย เผชิญสภาพอากาศร้อนจัดที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิสูงสุดพุ่งสูงเกือบ 46 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิที่วัดได้ที่ เนินเขาอ็อบเซอร์วาทอรี ฮิลล์ ใจกลางนครซิดนีย์ เมื่อเวลา 14.55 น.ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ (18 ม.ค.) วัดได้ 45.8 องศาฯ ขณะที่พื้นที่อื่นๆรอบนอกซิดนีย์ มีอุณหภูมิสูงกว่า โดยที่เมืองเพ็นริธทางตะวันตก บันทึกอุณหภูมิได้ 46.5 องศาฯ

ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย เสี่ยงเผชิญกับสภาพอากาศที่จะโหมไฟป่าให้ลุกไหม้หนักขึ้นในวันนี้ เพราะคาดว่าอุณหภูมิจะกลับมาสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสอีกครั้ง ประกอบกับมีลมพัดแรง จนถึงขณะนี้เกิดไฟป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครซิดนีย์แล้วทั้งหมด 84 จุด ในจำนวนนี้ 14 จุดยังไม่สามารถควบคุมได้ สำนักงานควบคุมไฟป่าประจำรัฐแจ้งว่า ไฟป่าในอุทยานแห่งชาติวอร์รัมบังเกิล ลามออกนอกแนวป้องกันแล้วช่วงเช้าวันนี้ หลังจากเผาบ้านเรือนไป 51 หลัง และพื้นที่อุทยานกว่า 280,000 ไร่

ออสเตรเลียมักเผชิญกับไฟป่าบ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัด โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2009 เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "แบล็ค แซตเทอร์เดย์" หลังจากเกิดเหตุไฟป่าที่คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 173 คน ในรัฐวิคตอเรีย

บันทึกสถิติอากาศร้อนที่สุดในซิดนีย์ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 1939 โดยสามารถวัดอุณหภูมิที่เนินเขาอ็อบเซอร์วาทอรี ฮิลล์ ได้สูงถึง 45.3 องศาฯ ด้านสำนักงานพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า สถิติสูงสุดที่วัดได้ในวันนี้ มิได้เกิดขึ้นเฉพาะนครซิดนีย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่ชายฝั่งอย่างเมืองเบก้า (44.6 องศาฯ) ไปกระทั่งเมืองวิลเลียมทาวน์ (44.8 องศาฯ)

ทางการนครซิดนีย์ได้ออกให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับสภาพอากาศร้อนจัด ดูแลรักษาสุขภาพ รวมถึงหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน อากาศร้อนจัดยังทำให้สายไฟของทางรถไฟได้รับความเสียหาย ส่งผลให้การเดินทางหยุดชะงัก ด้านหน่วยฉุกเฉินได้รับโทรศัพท์จากประชาชนเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากมีผู้เป็นลม มึนศีรษะ และอาเจียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook