บีบีซีแฉ! ไทยขาย 'โรฮิงญา' ให้ 'ขบวนการค้ามนุษย์'

บีบีซีแฉ! ไทยขาย 'โรฮิงญา' ให้ 'ขบวนการค้ามนุษย์'

บีบีซีแฉ! ไทยขาย 'โรฮิงญา' ให้ 'ขบวนการค้ามนุษย์'
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลการสืบสวนโดยสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษพบว่า เจ้าหน้าที่ไทยได้เคยขายชาวโรฮิงญาให้แก่ขบวนการค้ามนุษย์

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาชาวมุสลิมโรฮิงญาจำนวนมากได้เดินทางอพยพข้ามทะเลอันดามันมายังประเทศไทยอันเนื่องมาจากเหตุความรุนแรงที่รัฐยะไข่ของพม่า

บีบีซีเผยว่า เรือของผู้อพยพถูกสกัดโดยตำรวจและกองทัพเรือไทย โดยมีข้อตกลงเพื่อขายกลุ่มผู้อพยพให้แก่ขบวนการค้ามนุษย์ ที่จะนำพวกเขาเดินทางต่อไปยังมาเลเซีย ขณะที่รัฐบาลไทยให้คำมั่นที่จะสืบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป

อาห์เหม็ด หนึ่งในผู้อพยพเปิดเผยว่า เขาได้เดินทางออกจากรัฐยะไข่ โดยทิ้งภรรยาและลูกๆทั้ง 8 ไว้เบื้องหลัง หลังจากเรือประมงของเขาถูกทำลายในเหตุปะทะระหว่างชาวมุสลิมโรฮิงญาและชาวพุทธในยะไข่ และเขาเองจำเป็นต้องหาเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เขาเดินทางพร้อมกับคนอื่นอีกราว 60 คน ในเรือไม้โกโรโกโสนานถึง 13 วันเพื่อข้ามทะเลอันดามัน มายังชายฝั่งทะเลของไทย

เมื่อเขาและพวกถูกเจ้าหน้าของไทยจับกุมตัวไม่ไกลจากฝั่งมากนักเขาคิดว่าประสบการณ์ที่แสนสาหัสกำลังจะผ่านพ้นไปแต่ที่จริงแล้วมันเพิ่งเป็นจุดเริ่มต้น ในคืนนั้นเอง ชาวโรฮิงญาทั้งหมด ถูกนำตัวขึ้นฝั่งไปยังจ.ระนอง โดยใช้รถตำรวจ 2 ชม.หลังจากนั้น พวกเขาถูกจับแยกกัน และถูกนำตัวขึ้นรถ 6 คันที่มีขนาดเล็กกว่า และต้องซ่อนตัวอยู่ภายใต้ตาข่าย อาห์เหม็ดกล่าวว่า ทั้งหมดถูกบังคับให้นอนเรียงกันเหมือนปลากระป๋อง

ในขณะนั้นเขายังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นแต่การซื้อขายมนุษย์ได้เกิดขึ้นแล้วและชาวโรฮิงญาทั้ง 61 คน กำลังถูกนำตัวมุ่งลงใต้ไปยังมาเลเซีย โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มค้ามนุษย์

เมื่อพวกเขาออกจากรถ ที่อ.สุไหง-โกลก ในจ.นราธิวาส ก็ได้พบว่าตนเองได้กลายเป็นนักโทษไปแล้ว อาห์เหม็ดกล่าวว่า เมื่อจะขับถ่าย พวกเขาต้องขุดดิน ทุกคนกิน นอน และขับถ่ายในสถานที่เดียวกัน ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ บางครั้งถูกใช้เหล็กทุบตีหรือฟาดด้วยโซ่ตรวน

ขบวนการค้ามนุษย์ได้จ่ายเงินเพื่อซื้อตัวชาวโรฮิงญา และหวังที่จะเอาเงินคืนจากพวกเขา อาห์เหม็ดและชาวโรฮิงญาคนอื่นๆ ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ได้เป็นครั้งคราวเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือญาติพี่น้อง เขากล่าวว่า นายหน้าค้ามนุษย์บอกว่าพวกเขาซื้อชาวโรฮิงญามาจากตำรวจ และหากพวกเขาไม่ให้เงินก็จะไม่มีวันถูกปล่อยตัว "เราไม่สนหากพวกแกจะตายที่นี่"

ราคา"ค่าชีวิต"ของอาห์เหม็ดตกอยู่ที่ 40,000 บาทไทย สำหรับชาวประมงที่มีร่างกายแข็งแรง อาห์เหม็ดโทรหาภรรยา และแนะนำให้เธอขายวัว แต่ก็ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

หลังถูกกักกันตัวนานร่วมเดือน และเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง ได้มีเพื่อนชาวโรฮิงญาที่อาศัยในไทยมาช่วยไถ่ตัวเขาออกไปได้สำเร็จ เขานั่งรถบัสมุ่งขึ้นเหนือไปยังจ.ภูเก็ต และแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายกับเขามากกมาย แต่เขากลับไม่เรียกร้องอะไร แม้จะถูกปฏิบัติอย่างป่าเถื่อน "ผมไม่โกรธเจ้าหน้าที่ ผมไม่ขอยึดเอาความโกรธแค้นไว้กับตัวอีก ผมโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่"

ด้วยสภาพอากาศที่เป็นใจ ปัจจุบันพบว่ามีเรือที่บรรทุกชาวโรฮิงญาเดินทางเข้าไทยเกือบทุกวัน และอาห์เหม็ดเองก็ไม่ใช่คนเดียวที่ถูกกระทำเช่นนี้

เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา เรือที่บรรทุกเด็ก สตรี และผู้ชายกว่า 73 คน ถูกนำขึ้นฝั่ง ก่อนนำขึ้นรถบรรทุก ทางการประกาศว่าพวกเขาจะต้องถูกนำตัวไปยังชายแดนไทย-พม่าที่จ.ระนอง และต้องถูกขับออกนอกประเทศ ทว่าพวกเขาเดินทางไปไม่ถึงที่นั่น และกลุ่มค้ามนุษย์ได้รอทำการซื้อขายแล้ว เมื่อรถบรรทุกเดินทางถึงอ.คุระบุรี จ.พังงา ชาวโรฮิงญาถูกนำตัวขึ้นเรืออีกครั้ง

หนึ่งในนายหน้าค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายครั้งนั้นกล่าวว่า ได้มีการโอนเงินจากมาเลเซีย 1,500,000 บาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ในไทย ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวได้รับการยืนยันจากสมาชิกชาวโรฮิงญาที่อาศัยในไทย

ทางการไทยเปิดเผยต่อบีบีซีว่า พวกเขาเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตอยู่เพียงไม่กี่ราย แต่ที่ระนอง เมืองชายแดนที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ไทยที่รู้เรื่องชาวโรฮิงญาเป็นอย่างดี เปิดเผยว่า การตกลงกับนายหน้าค้ามนุษย์ตอนนี้ถือว่าเรื่องที่"ปกติ"

เมื่อชาวโรฮิงญาถูกพม่าปฏิเสธในการให้สัญชาติการส่งตัวกลับก็เต็มไปด้วยปัญหานานัปการขณะที่ไทยเองก็ไม่ต้องการสนับสนุนให้คนเข้าใจว่าเป็นประเทศสำหรับผู้อพยพที่มีปัญหาเรื่องปากท้อง

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่าชาวโรฮิงญาอยากไปมาเลเซียและชาวมาเลเซียยอมรับคนเหล่านี้เพราะว่าพวกเขาเป็นมุสลิม ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากเพียงใดที่จะพยายามและไปที่นั่น แต่คำถามก็คือ พวกเขาจะไปที่นั่นได้อย่างไร

มาเลเซียอนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเข้าทำการประเมินคำขอลี้ภัยของชาวโรฮิงญาขณะที่ประเทศไทยไม่ทำเช่นนั้น โดยไทยสงวนสิทธิ์การพิจารณาไว้เอง ว่าใครสมควรที่จะรับไว้เป็นผู้อพยพ

บีบีซีได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้แก่นายสีหศักดิ์พวงเกตุแก้วปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทราบ ซึ่งเปิดเผยว่ากำลังดำเนินการสืบสวนเรื่องดังกล่าว

"ในขณะนี้ เราไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้กระทำผิดคือใคร แต่รัฐบาลไทยกำลังค้นหาความจริงอย่างแน่วแน่ถึงต้นตอของปัญหา"

"ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้ดูแลผู้อพยพเหล่านี้อย่างดีที่สุด โดยคำนึงถึงพื้นฐานของหลักการด้านมนุษยธรรมเป็นหลัก"

"ในขณะเดียวกัน เรารู้สึกอย่างแน่วแน่ว่าเราทุกคนจะต้องทำงานร่วมกันผ่านความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อดูว่าเราจะสามารถหาทางแก้อย่างเป็นระบบและถาวรได้อย่างไร"

ก่อนหน้านี้ ชาวโรฮิงญาได้หลั่งไหลเข้ามาในไทยจำนวนมาก และเมื่อปี 2009 รัฐบาลไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อนโยบายการผลักดันผู้อพยพกลับทะเล

เนื่องจากผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นชาย ทางการไทยจึงมองว่าพวกเขาเป็นผู้อพยพอันเนื่องมาจากปัญหาปากท้อง ขณะที่ในปัจจุบัน ต้นตอของปัญหาไม่เหมือนเดิม การปะทะระหว่างชาวโรฮิงญาและชาวพุทธในรัฐยะไข่ ทำให้ชาวโรฮิงญาต้องอพยพมาอยู่ตามค่ายที่พัก และเป็นครั้งแรกที่เรือผู้อพยพที่ข้ามทะเลอันดามัน มีเด็กและสตรีรวมอยู่ด้วย

แปลและเรียบเรียงจาก "Burmese refugees sold on by Thai officials" โดย Jonah Fisher

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook