ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง เปมิกา คดีหมิ่นตระกูลทมทิตชงค์

(แฟ้มภาพข่าว)

28 ม.ค. - ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องคดีครอบครัว "ทมทิตชงค์" ฟ้อง "น.ส.เปมิกา" ฐานหมิ่นประมาทและแจ้งความเท็จ เนื่องจากคดีขาดอายุความ ส่วนข้อหาอื่น ๆ พยานหลักฐานอ่อน

ศาลอาญาอ่านคําพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี นางเพลินจิต ทมทิตชงค์ และ นพ.ประกิตพันธุ์ ทมทิตชงค์ และครอบครัว ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนกวดวิชาแอพพลายด์ฟิสิกส์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวเปมิกา วีรชัชรักษิต อดีตเพื่อนสาวคนสนิทของ นพ.ประกิตเผ่า บุตรชาย เป็นจําเลยฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น, แจ้งความเท็จเพื่อให้บุคคลอื่นต้องรับโทษทางอาญาและเบิกความเท็จ จากกรณีเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องถึง 9 มีนาคม 2550 จำเลยใส่ความโจทก์ทั้งสองด้วยการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ กล่าวหาว่า นพ.ประกิตเผ่า มีปัญหากับครอบครัวทั้งมารดา พี่ชาย และภรรยา เกี่ยวกับการบริหารสถาบันกวดวิชาและทำให้มารดาและพี่ชายวางแผนหลอกเอาตัวไปกักขังไว้ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา จังหวัดนนทบุรี อ้างว่าป่วยมีอาการโรคจิตและต่อมาพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัว นพ.ประกิตเผ่า ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากเห็นว่าในความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น ดำเนินการฟ้องช้า คดีจึงขาดอายุความ ส่วนความผิดฐานแจ้งความเท็จนั้นเห็นว่าโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยแจ้งข้อความใดที่เป็นเท็จกับพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น สำหรับความผิดฐานเบิกความเท็จนั้นในคดีนี้คือ โรงพยาบาลศรีธัญญา โจทก์ร่วมทั้งสองไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง รวมทั้งมีพยานยืนยันว่า นพ.ประกิตเผ่า ใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกับนางสาวเปมิกา ให้ช่วยเหลือจริง จึงพิพากษายกฟ้อง

นายอภิชาต จรสาย ทนายความนางสาวเปมิกา กล่าวว่า อยู่ระหว่างติดต่อไปยังทนายความฝ่ายโจทก์ เพื่อขอไกล่เกลี่ยยุติคดี ขณะที่นางสาวเปมิกา ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ เนื่องจากได้แต่งงานกับชาวต่างชาติและมีบุตรด้วยกันถึง 3 คน จึงเกรงว่าจะส่งผลกระทบกับครอบครัว - สำนักข่าวไทย