อีเวนต์การเมืองสองพรรคใหญ่ ใครช่วยบ้าง???

อีเวนต์การเมืองสองพรรคใหญ่ ใครช่วยบ้าง???

อีเวนต์การเมืองสองพรรคใหญ่ ใครช่วยบ้าง???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กว่าจะถึงโค้ง 10 วันสุดท้ายก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้ง ทั้ง 2 พรรคใหญ่ และไม้ประดับที่ถูกปลูกในกระถางพรรคการเมืองใหญ่อยู่เบื้องหลัง ต่างเร่งเปิดแคมเปญใหม่ และจัดอีเวนต์แบบชนเวทีประชันกันทุกวันสุดสัปดาห์

วัตรปฏิบัติของพรรคเพื่อไทยคือ จัดเวทีให้ พ.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เปิดตัวนโยบายใหม่ทุกวันพุธและจัดอีเวนต์ระหว่างลงพื้นที่ทุกวัน

พรรคเพื่อไทยพลอตอารมณ์โหวตเตอร์ ด้วยการนำเสนอกิจกรรม ภาพข่าวที่หวือหวา ตื่นเต้น คล้ายหนังบู๊ มีฉากโครมครามตลอดสัปดาห์

ต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคค่ายอนุรักษนิยมแห่งประชาธิปัตย์ ที่เน้นความเนิบช้า สม่ำเสมอ คล้ายหนังดราม่า ที่อาจมาถึงตอนจบโดยโหวตเตอร์แทบไม่รู้ตัว

ฝ่ายประชาธิปัตย์จัดทีมจัดอีเวนต์ถึง 2 ทีม ทั้งทีมส่วนตัวของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และทีมการเมืองที่พรรคของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้กำหนด

ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีร่วมกับ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง

ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยมีระบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากสารที่ส่งมาจากผู้มีบารมีนอกพรรค อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งผ่านกรรมการยุทธศาสตร์พรรค โดยภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค และทีมงานการเมืองครบเครื่อง ทั้งกลุ่มแกนหลักการเมืองอย่างจาตุรนต์ ฉายแสง และคณะรัฐมนตรีเกือบทั้งคณะ ปูพรมลงเคาะประตูทำคะแนนพร้อม ๆ กับการจัดอีเวนต์ แคมเปญการเลือกตั้งแบบการตลาดนำการเมือง ตอกย้ำโหวตเตอร์ต่อเนื่อง

ฝ่ายประชาธิปัตย์ยังไม่เปิดเผยอีเวนต์ หรือแคมเปญใหม่ไปกว่าที่หาเสียงผ่านกิจกรรม 16 นโยบาย และให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการลงพื้นที่เคาะประตูพบโหวตเตอร์โดยตรง ตอกย้ำหมายเลข 16 ก้าวข้ามผลโพลที่รุมสร้างกระแสปิดล้อมเสียงสวรรค์ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร

ในโค้งที่สองก่อน-หลังเทศกาลตรุษจีน เสียงของฝ่ายประชาธิปัตย์จึงยังทรง ๆ ทำให้แกนนำพรรคบางคน ต้องร่วมขบวนในการเร่งเครื่อง เพราะเกรงความพ่ายแพ้จะมาเยือนเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ

อีกทั้งยังมีผู้ร่วมท้าชิงระดับไม้ประดับในแจกันพรรคใหญ่ร่วมชิงแต้ม

ยิ่งทำให้ฝ่ายประชาธิปัตย์ยังอยู่ในดินแดนที่เสียเปรียบ

คนการเมืองระดับขาใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องจัดเตรียมแคมเปญการเมือง พร้อมคีย์เวิร์ดที่โดนใจคนกรุงเทพฯ เพื่อจัดอีเวนต์แบบออกตัวแรงตั้งแต่หลังเทศกาลตรุษจีนเป็นต้นไป

คาดว่าระหว่างวันที่ 12-22 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งเป็นช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนลงคะแนน ทั้ง 2 พรรคต้องโหมกิจกรรม และสร้างกระแสผ่านสื่อหลักและสื่อของพรรคอย่างต่อเนื่องดุเดือด

พล.ต.อ.พงศพัศ ใช้สไตล์คือ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กับกางเกงสแล็กสีดำออกหาเสียงทุกวันเหมือนกัน

กระทั่งเคยได้รับการตั้งฉายาประจำปีจากสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ในปี 2552 ว่า "ดาราสีกากี" ขณะที่ฉายาล่าสุดในปี 2555

ก่อนที่ "พล.ต.อ.พงศพัศ" จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. คือ "จูดี้อีเวนต์"



เพียงก้าวแรกที่ "พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ" เดินเข้ามากรอกใบเป็นสมัครชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมรับปากตกลงกับ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี และผู้บริหารพรรคว่าจะลงรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรค

"พล.ต.อ.พงศพัศ" ก็ยื่น "เรซูเม่" พร้อมแนบเงื่อนไข 2 ข้อแนบท้ายทันที

เงื่อนไขของ "พล.ต.อ.พงศพัศ" มีอยู่ว่า 1.เสื้อผ้า-หน้า-ผม ขอดูแลเอง ดังนั้น การหาเสียงของเขาตั้งแต่โค้งแรกจนถึงกลางโค้งที่ 2 ภาพที่ปรากฏสู่สายตาชาวบ้านทั้งนอกจอ-ในจอ จึงปรากฏเพียงภาพที่ตัวเขาใส่เสื้อเชิ้ตพับแขน กับกางเกงสแล็กสีดำเท่านั้น ไม่นอกกรอบ ไม่แหวกหนีไปจากนี้

แม้หาเสียงจนกางเกงเป้าขาด แต่ก็มีตัวใหม่สำรองเปลี่ยนทันที และยังให้คนติดตามใส่เครื่องแบบเป็นเซตเดียวกัน

เหตุผลที่ "พล.ต.อ.พงศพัศ" เลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนคู่กับกางเกงสแล็ก เพราะต้องการเน้นภาพคนทำงาน ลุยได้ทุกพื้นที่ แสดงบทบาทได้ทั้งคนขับรถ คนกวาดถนน ปีนรถเก็บขยะ หรือทำขนม

ที่สำคัญเสื้อสีขาวสะท้อนแคแร็กเตอร์ความเป็นมือสะอาด เป็นบุคลิกของคนทำงาน ซึ่ง "ภูมิธรรม เวชยชัย" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ก็เห็นด้วยกับแคแร็กเตอร์นี้

เงื่อนไขข้อ 2.การหาเสียงต้องเป็นแง่บวก เสริมสร้างภาพลักษณ์ ไม่ทะเลาะกับใคร ลบภาพความขัดแย้ง จึงเห็นปรากฏการณ์ที่พรรคเพื่อไทย และ "พล.ต.อ.พงศพัศ" เดินหน้าหาเสียง ฉายภาพนโยบายเพียงอย่างเดียว ไม่เน้นตอบโต้การเมืองฝ่ายตรงข้าม

พร้อมสั่งล้อมคอกคนที่มีภาพความขัดแย้งติดตัว เช่น "พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์" โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกนอกวง แล้วดัน "บรู๊ค-ดนุพร ปุณณกันต์" เข้ามาเป็นโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งแทนโควตาของ "พร้อมพงศ์" เพื่อแสดงให้เห็นว่า "พล.ต.อ.พงศพัศ" เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ไม่ติดหล่มการเมืองน้ำเน่า

ร่ำลือกันว่า ครั้งหนึ่ง "พร้อมพงศ์" พยายามขอเข้าร่วมประชุมคณะยุทธศาสตร์ประชาสัมพันธ์ ที่อยู่ภายใต้ศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งฯ แต่พอเริ่มแสดงความเห็นก็ถูกเชิญออกนอกวงประชุมทันที

ด้านแนวรบเว็บไซต์-โซเชียลมีเดีย-เฟซบุ๊กของ "พล.ต.อ.พงศพัศ" ได้รับการขันอาสาจาก "แซน"-"ชยิกา วงศ์นภาจันทร์" หลานสาวของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้เคยรับหน้าที่เป็นเว็บมาสเตอร์ของเว็บ "Inside thaigov" มีบทบาทตอบโต้ประเด็นการเมืองให้กับ "น้ายิ่งลักษณ์" เช่น กรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ และคอยอัพเดตกิจกรรม-วาระต่าง ๆ ของ "ยิ่งลักษณ์" ผ่านทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/Yingluck Shinawatra และทวิตเตอร์ @ PooYingluck

มาวันนี้ทีมงานของ "แซน" รับหน้าที่เป็นทีมงานวอร์รูมโซเชียลมีเดีย ร่วมกับทีมงานจากสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี

ของ "พานทองแท้ ชินวัตร" ลูกชายคนโตของอดีตนายกรัฐมนตรี "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" วางแผนปั้นเฟซบุ๊ก www.facebook.com/Pongsapatbkk และทวิตเตอร์ @PongsapatBKK สร้างภาพเชิงบวกให้กับ "พล.ต.อ.พงศพัศ" เพื่อเจาะฐานคนรุ่นใหม่ ขับเคี่ยวกับคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผุดทีม "แก๊งก่อโหวต" เอาใจวัยโจ๋

ด้านบริษัท ฮาวคัม สตูดิโอ ของ "พานทองแท้" ก็ถูกดึงเข้ามารับงานออกแบบ-จัดพิมพ์ แผ่นป้ายหาเสียงที่ติดรอบกรุงนับหมื่นป้าย และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครหลายแสนแผ่น

เงินทุกบาท-ทุกสตางค์ ไม่กระเด็นไปจากพรรคเพื่อไทย และตระกูลชินวัตร

แผนผังดังกล่าวคือองคาพยพที่ประกอบเป็นทีมงานเชิงรุกให้กับ "พล.ต.อ.พงศพัศ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook