อดีตจเรตร.ร้องเสียหายสืบพยานอุ้มฆ่าอัลรูไวลี่
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้นำตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย หรือ นายเกียรติกรณ์ แก้วผลึก จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลมีนบุรี เนื่องจากได้รับความเสียหายกระทบต่อสิทธิ์ที่จะนำพยานมาสืบตามกระบวนการคดีอุ้มฆ่า นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย เพราะ พ.ต.ท.สุวิชชัย หลบหนีคดีออกนอกประเทศ หลังศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต และศาลได้ทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีรับโทษตามคำพิพากษา โดยมีขบวนการนำ พ.ต.ท.สุวิชชัย ออกนอกประเทศ และเปลี่ยนชื่อ พ.ต.ท.สุวิชชัย ที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ พนักงานอัยการ และมีการย้ายทะเบียนบ้าน รวมไปถึง สามารถทำหนังสือเดินทางได้ภายใน 1 วัน เมื่อปลายปี 2555 ทั้งที่อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับศาลมีนบุรี พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่า รัฐบาลและ นายธริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จะไม่รับรู้ได้อย่างไรด้าน อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า คดีนี้ฝ่ายอัยการคดีพิเศษเป็นผู้ฟ้อง และมีการสืบพยานมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะสืบพยานที่ศาลอาญามาโดยตลอด แต่ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งศาลได้ตัดพยานปากนี้ออกไปแล้ว แต่เป็นพยานปากสำคัญ ซึ่งไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย จึงไม่สามารถทำได้จนกระทั่งทราบว่า ล่าสุด พยานได้อยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ศาลจึงมีคำสั่งให้สืบพยานปากดังกล่าว ซึ่งกระบวนการนี้ อยู่ดุลพินิจของศาล ไม่ใช่อัยการ ส่วนพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องกับการนำพยานหลบหนีจริงหรือไม่นั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบต่อไป