นายกฯให้ขรก.ปิดไฟตอนบ่าย1ชม.คาด5เมย.ไฟตกบางจุด

ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (19 ก.พ. 2556) มีมติให้ทุกหน่วยงานราชการ รณรงค์ประหยัดพลังงาน โดยการปิดไฟที่ไม่จำเป็น และลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ทำให้ในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำร่องและเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงานราชการ โดยแต่งกายไม่สวมสูท เช่นเดียวกับรัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ต่างพร้อมใจกันไม่สวมสูทขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งเจ้าหน้าที่บนตึกไทยคู่ฟ้า ปรับเพิ่มอุณภูมิอยู่ที่ 25 องศาสเซลเซียส ซึ่งปกติจะเปิดอยู่ที่ 23 องศาเซลเซียส แต่หากต้องรับรองแขกจำนวนมาก จะปรับอุณหภูมิที่ 20 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมรณรงค์ประหยัดพลังงงาน รองรับวิกฤติพลังงาน ในระหว่างวันที่ 4-12 เมษายน ที่ทางการพม่า จะปิดซ่อมท่อส่งก๊าช และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทย นายกฯ สั่งข้าราชการปิดแอร์ช่วงบ่าย 1 ชั่วโมงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติ ครม.ให้มีการขอความร่วมมือและรณรงค์ให้หน่วยงานราชการและประชาชน ช่วยประหยัดไฟฟ้า โดยการลดแอร์อยู่ที่ 25-26 องศาฯ พร้อมกันนี้ ในช่วงบ่ายให้มีการปิดแอร์ 1 ชม. ซึ่งการรณรงค์ดังกล่าวจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางกระทรวงพลังงาน ได้มีการประชุมหารือกับประเทศพม่าแล้วว่า พม่าจะเลื่อนทำการซ่อมท่อก๊าซพลังงานจากเดิมวันที่ 4 - 12 เม.ย. เป็นเริ่มซ่อมแซมในวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งคาดว่ายังคงมีพลังงานสำรองเพียงพออยู่แต่อาจจะมีไฟตกอยู่บ้างในบางพื้นที่ โดยในระยะยาว ให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. เร่งหาแนวทางกำหนดขั้นตอนวิธีการเพื่อสำรอง หรือซื้อพลังงานธรรมชาติจากต่างประเทศ ส่วนค่าแนวทางการปรับค่าไฟ หรือ FT รัฐบาลก็พยายามหาแหล่งต้นทุนต่างๆ ที่จะมาช่วยในระยะแรก ประชาชนอาจจะได้รับผลกระทบอยู่บ้าง แต่เป็นแค่ช่วงสั้นๆ โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย   นอกจากนี้ นายกฯ ยืนยันว่า กรณีที่มีประชาชนแห่มาถอนเงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ IBANK ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล เนื่องจากมีพระราชบัญญัติคุ้มครองทุกบัญชีเงินฝากอยู่แล้ว ส่วนการคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ต่อปี นั้นจะให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงไปดูแล และหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อติดตามปัญหาและประคับประคองไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่อไป  พม่ายอมเลื่อนหยุดจ่ายก๊าซเป็น 5 - 14 เม.ย.นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ กรณีพม่ามีแผนหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศไทย ในช่วงวันที่ 4 - 12 เม.ย.นี้ ว่า ทางกระทรวงพลังงาน ได้เจรจาขอให้พม่าเลื่อนซ่อมบำรุงท่อก๊าซออกไปเป็นเที่ยงของวันที่ 5 - 14 เม.ย. จะช่วยลดผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจาก ในวันที่ 5 เม.ย. คาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ประมาณ 26,500 เมกะวัตต์ ขณะที่สำรองไฟฟ้าของประเทศอยู่ในระดับต่ำประมาณ 700 เมกะวัตต์ ซึ่งต่ำสุดตั้งแต่ที่เคยเกิดขึ้น ในประเทศไทย จึงมีความเสี่ยงต่อความมั่นคงไฟฟ้า นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ได้เตรียมแก้ไขปัญหาด้วยการประสานให้โรงไฟฟ้าให้มีความพร้อมในการเดินเครื่องการผลิตด้วยน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลทดแทน ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตไฟฟ้ามีต้นทุนเพิ่มขึ้นและก็จะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอัตโนมัติผันแปร หรือ เอฟที ประมาณ 48 สต./หน่วย ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะไม่เกิดไฟฟ้าดับแต่จะบริหารจัดการให้ดีที่สุด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมกันประหยัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว  พม่า เลื่อนซ่อมท่อก๊าซ5เมย.-พงษ์ศักดิ์ถกแผนฉุกเฉินรับhttp://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=435680