ตร.ภ.5 เร่งสืบคดีขโมยเงินรถธนาคาร 9 ล้าน

หลังจากตำรวจได้เสนอศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับ นายชัชพงศ์ อุทยาน คณะกรรมการร่วมประจำรถ และนายสุดปรีชา ทองพันธ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมรถ ในข้อหาลักทรัพย์ของนายจ้าง ในคดีเงินสดจำนวน 9 ล้านบาท หายไปจากรถขนเงินของบริษัทกรุงไทย ธุรกิจบริการ ส่วนนายณัฐวัฒน์ สายอุดม คนขับรถได้ปล่อยตัวไปนั้น ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไว้ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม โดยมีญาติได้เข้าเยี่ยมและนำสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวมามอบให้วานนี้ (8 มี.ค.) คาดว่าในวันนี้ (9 มี.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวทั้ง 2 ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่

ส่วนความคืบหน้าในการคลี่คลายคดี พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 ในฐานะผู้อำนวยการคลี่คลายคดี เรียกพนักงานสอบสวนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธร ภาค 5 ตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ และสภ.แม่ริม ท้องที่เกิดเหตุเข้าร่วมหารือ และวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ เพื่อควานหาตัวคนร้าย ทั้งนี้ตำรวจวางแนวทางการสอบสวนเพิ่มเติ่ม หลังผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับยังคงให้การปฏิเสธ โดยพยายามหาหลักฐานต่างๆ เช่น กล้องวงจรปิด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาประกอบ

ด้าน พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่า นอกจากจะมีผู้ต้องหา 3 คนที่เรียกสอบ ยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงได้แจ้งข้อหากับพนักงานของบริษัททั้ง 2 คนก่อน ในข้อหาลักทรัพย์แต่จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ศาล ส่วนเงินที่สูญหายไปเจ้าหน้าที่พยายามเต็มที่ที่จะติดตามกลับคืนมา และเมื่อวันพฤหัสได้พบเงินจำนวน 20,000 บาท ทิ้งไว้ในถังขยะภายในปั้มน้ำมันคาลเท๊กซ์สาขาแม่ริม จึงนำไปตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุมีรถยนต์กระบะต้องสงสัยสีดำ ขับมาจอดเทียบข้างกับรถขนเงินของธนาคารกรุงไทย ขณะพนักงานจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถด้านหลังธนาคาร ซึ่งตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจเป็นรถของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ และช่วงเวลาดังกล่าวมีรถเข้ามาจอดด้านหลังธนาคารประมาณ 16 คัน โดยคนร้ายลงมือก่อเหตุช่วงเวลา 08.27 น. และใช้เวลาเพียง 41 วินาที ในการเปิดตู้นิรภัย และขนเงินหลบหนีไป จึงเร่งขอความร่วมมือประสาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ให้ช่วยตรวจสอบรถยนต์กระบะสีดำต้องสงสัยคันดังกล่าว แต่ยังไม่พบ