ศพนิรนามกลางถนนรัชดา-ท่าพระ เก๋งตามหลังทับศพซ้ำ

ศพนิรนามกลางถนนรัชดา-ท่าพระ เก๋งตามหลังทับศพซ้ำ

ศพนิรนามกลางถนนรัชดา-ท่าพระ เก๋งตามหลังทับศพซ้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว)

(10 มี.ค.) หนุ่มนิรนามถูกรถชน ศพขวางถนนรัชดา-ท่าพระ เก๋งขับตามหลังไม่ทันเห็น ขับทับลากศพ รถแท็กซี่ตามมาขับลากศพอีกซ้ำ 2 ระบุผู้เสียชีวิตถูกรถบรรทุกชนมาก่อน เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล ได้รับแจ้งเหตุคนถูกรถชนเสียชีวิต ศพนอนขวางอยู่บนถนนรัชดา-ท่าพระ รถยนต์ที่ขับตามหลังมาทับร่างและลากศพออกไปไกล จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณถนนรัชดา-ท่าพระ ใกล้กับซอยรัชดาภิเษก-ท่าพระ 9 บนช่องจราจรช่องที่ 2 เจ้าหน้าที่พบศพ ชายไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อยืดสีส้ม กางเกงขาสั้น นอนเสียชีวิตสภาพศีรษะแตก มันสมองไหล พิสูจน์อัตลักษณ์ไม่ได้ ตามร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์ กระดูกหักผิดรูป พบร่องรอยศพถูกลากบนถนนเป็นระยะทาง 300 เมตร ไม่พบเอกสารใดๆ ของผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ยังพบ รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส สีบรอนซ์เงิน ของ นายวรพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี จอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ สภาพกันชนด้านหน้าหลุด มีคราบเลือดและมันสมองของศพผู้เสียชีวิตเปรอะอยู่ และพบ รถแท็กซี่โตโยต้าฮัลติส สีฟ้า มี นายอดุลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับ จอดอยู่ในที่เกิดเหตุเช่นกัน ทั้งคู่ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่

จากการสอบสวน นายวรพัฒน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถลงมาจากสะพานพระราม 3 เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่ที่ช่องจราจรที่ 2 จึงเหยียบเบรกกะทันหัน แต่รถก็ได้ทับร่างผู้เสียชีวิตและลากศพไป ก่อนจะจอดรถนิ่งสนิท ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ชนผู้เสียชีวิต มีรถบรรทุกขับชนผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ขณะที่ทางด้าน นายอดุลย์ ให้การว่า ขับรถมาเห็นรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สเปิดไฟกระพริบอยู่กลางถนน แต่ไม่ทันเห็นศพผู้เสียชีวิตอยู่บนถนน จึงได้ชนร่างผู้เสียชีวิตและลากศพ จนมาถึงปากซอยรัชดา-ท่าพระ 9 ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจในคำให้การของทั้งสอง จึงได้เตรียมสอบถามพยานแวดล้อม กรณีที่อ้างว่ามีรถบรรทุกขับชนผู้เสียชีวิตจนเสียชีวิตมาก่อนหน้านั้น และรอผลชันสูตรศพเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง และจะติดตามสืบหาว่าผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นผู้ใดและมาจากที่ไหนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook