ศูนย์ประมวลน้ำชี้ใช้น้ำต้นทุนแล้งนี้ได้แค่21%

ศูนย์ประมวลน้ำชี้ใช้น้ำต้นทุนแล้งนี้ได้แค่21%

ศูนย์ประมวลน้ำชี้ใช้น้ำต้นทุนแล้งนี้ได้แค่21%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุดสำรวจเมื่อ 12 มี.ค. 56 มีปริมาณน้ำรวมกันจำนวน 41,255 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุอ่างฯ ขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด ปริมาณน้ำน้อยกว่า ปี 2555 จำนวน 6,244 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้ เหลืออยู่ประมาณ 17,756 ล้านลูกบาศก์เมตรสำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ส่งไปสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีดังนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,079 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,779 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,245 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,395 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 517 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 474 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 343 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 340 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ปริมาณน้ำต้นทุนที่สามารถนำมาใช้ได้ เหลือเพียงร้อยละ 21 ของแผนฯ เท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องสงวนไว้สำหรับการอุปโภค-บริโภค การผลิตน้ำประปา และรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก ตลอดช่วงฤดูแล้งที่ยังเหลืออีกกว่า 1 เดือนเศษ จึงขอย้ำเตือนให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ต้องงดทำนาปรังครั้งที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลผลิตที่อาจจะขาดน้ำได้ และเพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ ใช้ได้ตามแผนที่วางไว้อย่างเพียงพอ ไม่ขาดแคลน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook