สำรวจตลาดคลองถมขายซีดีลามกอื้อ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า พฤติกรรมของเด็กและเยาวชนที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งการใช้ความรุนแรง ก้าวร้าว ตลอดจนคดีอาชญากรรมทางเพศที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการลอกเลียนแบบจากสื่อประเภทภาพยนต์ลามกอนาจาร ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ ตลอดจน CD ละเมิดลิขสิทธิ์ และยากต่อการควบคุม โดยคืนนี้ (16 มี.ค.) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดคลองถม ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จากการเดินสำรวจพบว่า ในคืนนี้มีคนมาเดินเกือบทุกเพศ ทุกวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ตลอดจนวัยทำงาน โดยส่วนใหญ่มาเดินเลือกซื้อสินค้า และเดินเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่สินค้าที่นำมาวางจำหน่ายภายในตลาด มีทั้งตั้งเป็นแผงค้าและปูผ้าวางขายกับพื้น ส่วนสินค้าก็มีหลากหลายประเภทไม่แตกต่างจากตลาดทั่วไป อาทิ ประเภท เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักในตลาดคลองถม กลับเป็นสินค้าประเภทหนังแผ่น ซีดีเพลง ละคร ตลอดจนซีดีลามกอนาจาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าละเมิดลิขลิทธิ์เกือบทั้งหมด ที่นำมาวางขาย ในราคา 3-5 แผ่น 100 บาท เท่านั้น ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า ร้านที่ขายซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ มีการวางขายแบบเทเป็นกองรวม ให้ลูกค้าเลือกซื้อ และแยกประเภท เพื่อให้สะดวกต่อการเลือกซื้อ โดยวางขายแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย และลูกค้าสามารถยืนเลือกซื้อโดยไม่กลัวการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน จากการสอบถามหนึ่งในผู้ขาย กล่าวว่า วันนี้เริ่มขายมาตั้งแต่ 11.00 น. ที่ผ่านมา เนื่องจากวันเสาร์ จะมีลูกค้ามาเดินซื้อจำนวนมาก พร้อมบอกว่าส่วนตัวไม่กลัวการจับกุมแม้ช่วงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจละลงพื้นที่บ่อยก็ตาม เนื่องจากหากถูกจับ เจ้าของก็จะประกันตัวออกมาเช่นเดิมอย่างไรก็ตาม นอกจากสื่อออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ง่าย เพราะการควบคุมของรัฐยังไม่ครอบคลุมนั้น การที่เยาวชน สามารถเลือกซื้อสินค้าประเภทซีดีลามกอนาจารต่าง ๆ ได้ง่าย เนื่องจากมีการวางขายตามท้องตลาดและราคาถูก จึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสนใจ และเร่งแก้ไขปัญหา เนื่องจากปัจจุปัน สถิติ หรือแนวโน้มคดีอาชญากรรทมทางเพศ เพิ่มสูงขึ้น และเกิดกับเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดคลองถม ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 13 แห่ง ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ที่สำนักงานตัวแทนทางการค้าของสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้รายงานระบุชื่อตลาด ที่มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศ โดยทางสหรัฐฯ ต้องการเห็นปริมาณสินค้าละเมิดลดน้อยลงอย่างชัดเจน ก่อนการประกาศผลการประเมินประเทศไทยตามกฎหมายการค้า มาตรา 301 พิเศษ (Special 301 Report) ในสิ้นเดือน เม.ย. นี้