สาวจีนพลัดตกท่อระบายน้ำ จนท.ไม่พบร่างยังสาบสูญ

นักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง พลัดตกท่อระบายน้ำกลางถนน หลังพายุฝนกระหน่ำ-น้ำท่วมถึงเข่า จนท.หาร่างอยู่ 2 วัน ยังหายสาบสูญ ไม่พบเจอร่าง โอกาสรอดชีวิตน้อยลงทุกที

สำนักข่าวประเทศจีนรายงานว่า เกิดเหตุสาววัย 21 ปี ประสบเหตุเดินพลัดตกท่อระบายน้ำ บนถนนใจกลางเมืองฉางชา มณฑลหูหนาน เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มี.ค.) เนื่องจากก่อนหน้านี้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนน และฝาท่อระบายน้ำเปิดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ

ตามรายงานระบุว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งคนพลัดตกลงท่อระบายน้ำกลางถนน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว พายุฝนเพิ่งเบาลงและมีน้ำท่วมขังอยู่ระดับหัวเข่า พยานที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายเดินอยู่บนฟุตบาท ซึ่งเป็นเนินดินสูงจากถนนประมาณ 1 เมตร ก่อนเธอจะเดินลงเนินดิน เพื่อมาขึ้นรถโดยสารประจำทางที่จอดรออยู่กลางถนน ห่างจากฟุตบาทราวๆ 10 ฟุต ก่อนจะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้อง พลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำ ซึ่งมีการระบายน้ำท่วมขังอยู่

เหยื่อผู้เคราะห์คือ น.ส.หยาง หลี่จุน นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยปักกิ่ง อายุ 21 ปี ซึ่งได้เดินทางมาหางานทำที่เมืองฉางชา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยได้พยายามช่วยเหลือและค้นหาหญิงสาวคนดังกล่าว โดยสำรวจค้นหาดำเนินไปกว่า 20 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบร่องรอย

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวทำให้เกิดประเด็นคำถามว่า เหตุใดฝาระบายน้ำบนถนนถึงเปิดออก บ้างก็โทษเป็นความสะเพร่าของเทศบาลที่เปิดฝาออกเพื่อระบายน้ำท่วมขัง แต่บ้างก็อ้างหลักทางวิทยาศาสตร์ ฝาระบายน้ำอาจเกิดแรงดันอากาศและน้ำในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นเหตุทำให้ฝาระบายน้ำเปิดออกเอง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบ

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด เหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 48 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติภารกิจค้นหาร่างของเหยื่อสาวที่พลัดตกท่อระบายน้ำ ที่ยังไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นหรือตาย โดยค้นหาตามจุดระบายออกของท่อระบายน้ำ รวมทั้งแม่น้ำเซียง ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดที่น้ำจะระบายออก

นอกจากนี้ เบาะแสเพิ่มเติมของกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความสงสัยว่า เหตุดังกล่าวอาจจะเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ น.ส.หยาง เพิ่งไปทานข้าวกับอดีตแฟนหนุ่ม ก่อนจะโดยสารถประจำทางกลับที่พัก รวมทั้งหลักฐานจากโปรแกรมแชทคิวคิว เมื่อ 8 วันก่อนเกิดเหตุ น.ส.หยาง โพสต์ว่า "ฉันรู้สึกฉันคงต้องอยู่อย่างเดียวดาย" อีกทั้งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน น.ส.หยาง ได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวด้วยท่าทีที่ซึมเศร้า แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่เน้นมุ่งไปประเด็นใดเป็นประเด็นหนึ่ง

ส่วนทางด้านชาวเมืองฉางชาและเพื่อนมหาวิทยาลัยของ น.ส.หยาง ได้ร่วมกันสวดมนต์และจุดเทียนภาวนาให้ค้นพบร่าง หรือขอให้ น.ส.หยาง ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถึงในขณะนี้เปอร์เซ็นต์ที่ น.ส.หยาง จะรอดชีวิตเริ่มลดน้อยลงทุกนาที