เปิดใจ! ผู้รอดชีวิต ไฟไหม้ทะเลเพลิงที่บ้านแม่สุริน

นานาชาติเร่งประสานงานให้ความช่วยเหลือ ชาวกะเหรี่ยงที่ได้รับผลกระทบเหตุเพลิงไหม้ศูนย์อพยพบ้านแม่สุริน พร้อมกับเล่าเปิดใจถึงวันเกิดเหตุ

(25 มี.ค.) ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ศูนย์อพยพผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ที่เป็นแหล่งพักพิงชาวกะเหรี่ยงกว่า 3,000 คน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 มีนาคม ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตยังคงหยุดอยู่ที่ 36 ศพ หลังเจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติค้นหาผู้เสียชีวิต ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์อัตลักษณ์ได้แล้ว 23 ศพ อีก 13 ศพ ยังไม่สามารถระบุได้ และจะมีการทำพิธีเผาศพผู้เสียชีวิตในช่วงเย็นวันนี้

สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ที่ศูนย์อพยพฯ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า มีเหตุมาจากไฟหุงต้มของบ้านผู้อพยพต๊อก 1 แต่จากคำบอกเล่าของผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่ ให้การในทำนองเดียวกันว่า เกิดจากไฟป่าที่ลุกลามไหม้ถึงบ้านเรือนผู้อพยพ ก่อนจะเกิดลมหมุน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นตามพื้นที่ที่เป็นหุบเขาหรือช่องเขา แรงลมเป็นเหตุทำให้ลูกไฟได้พัดกระจายไปตกใส่บ้านผู้อพยพใกล้เคียง ที่ทำมาจากไม้ไผ่ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงที่รอดชีวิตคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะเกิดเพลิงไหม้ ตนกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ที่ต๊อก 4 ได้ยินเสียงตีระฆัง แจ้งเหตุให้คนหลบภัยมาอยู่ที่ริมลำห้วยแม่สุริน ตนจึงอุ้มลูกและภรรยาหนีไปในที่ปลอดภัย ก่อนจะกลับเข้าไปช่วยเพื่อนบ้าน แต่เพียงแค่พริบตาเดียว ลมหมุนกำลังแรงได้พัดพาลูกไฟจากต้นเพลิงที่ต๊อก 1 ซึ่งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ ตกมาใส่บ้านต๊อก 4 และลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เป็นเหตุทำให้ผู้อพยพต๊อก 4 เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากไม่คาดคิดว่าไฟจะลุกลามข้ามแม่น้ำมาไหม้อีกฝั่งได้ จึงไม่ทันได้ระวังภัย

หลังเพลิงข้ามมาลุกไหม้ที่ต๊อก 4 ทำให้ผู้คนวิ่งหนีแตกตื่นขึ้นเชิงเขา แต่ควันไฟดำหนาและลุกลามอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุทำให้คนชราและเด็กหลบหนีไม่ทันถูกไฟคลอกเสียชีวิต คนอีกนับพันได้วิ่งลงไปรวมตัวกันที่ลำห้วยแม่สุริน ผู้คนร้องโหยหวนเหมือนกับตอนที่วิ่งหลบหนีภัยสงคราม เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้นับเป็นความทรงจำที่เลวร้ายที่ยากจะลืม

ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ เชื่อว่าน่าจะพยายามหลบหนีขึ้นไปบนเชิงเขา แต่หนีไม่ทัน เป็นเหตุทำให้สำลักควัน หมดสติและเสียชีวิตในที่สุด ทางด้าน นายเฮียน ฮอล์ ผู้อำนวยการด้านชายแดนไทย-พม่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่สหประชาชาติที่ดูแลผู้ลี้ภัยชาวพม่า ตลอดแนวชายแดน ได้รับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ UNHCR กรุงเจนีวา ให้ลงพื้นที่ไปกำกับดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามบ้านแม่สุริน โดยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ไทย NGO ไปดูแล และให้ความช่วยผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องด่วน รวมทั้ง การระดมทีมแพทย์ พยาบาล ลงไปพื้นที่เพื่อดูสุขภาพของผู้ลี้ภัย ทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจ

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ และภาพข่าวจาก SKY Report CH3