พิษภัยแล้งธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ซบเซา
จากการติดตามบรรยากาศการจำหน่ายเนื้อสัตว์และโคเนื้อ ที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงาซบเซาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นายสุรชัย ศิลาหอม ผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์นำโชคฟาร์ม ในเขตเทศบาลตำบลโคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า เป็นผลพวงจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ประชาชนทั่วไปที่เป็นลูกค้าประจำ ไม่สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรม ไม่มีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิต จึงไม่มีกำลังซื้อเนื้อวัวไปบริโภค เนื่องจากราคาจำหน่ายตามเขียงเนื้อหรือโรงฆ่าสัตว์ทั่วไป ปรับราคาสูงขึ้นถึง กิโลกรัมละ 260 บาท นายสุรชัย กล่าวอีกว่า เมื่อประสบปัญหาดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ใน จ.กาฬสินธุ์ หลายรายต้องล้มเลิกกิจการไป เพราะไม่อาจแบกรับกับภาระค่าใช้จ่าย และไม่กล้าเสี่ยงกับการรับซื้อวัวมาชำแหละ เพราะมีราคาที่แพงขึ้น เฉลี่ยตัวละ 20,000-40,000 บาท เมื่อนำเนื้อมาจำหน่ายก็ไม่คุ้มกับการลงทุน ทำให้บรรยากาศการจำหน่ายฝืดเคือง เมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้รายได้จากการจำหน่ายเนื้อวัวลดหายไปเป็นอย่างมาก คาดว่าในฤดูแล้งนี้ รายได้หายไปกว่า 20 ล้านบาททีเดียวอย่างไรก็ตาม จากรายงานสถานการณ์น้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ที่ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวทั้งหมดเหลืออยู่ที่ 256 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 13 แต่มีปริมาณน้ำใช้การได้เพียง 156 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 8 เท่านั้น