พายัพแจงไม่ใช้งบปกติเกรงก่อสร้างไม่ต่อเนื่อง
บรรยากาศในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการใหญ่ที่จะทำให้มีช่องทางในการทุจริตได้มาก ซึ่งหลังจากที่ น.ส.รังสิมา ลุกขึ้นพูดนั้นก็เกิดการประท้วงขึ้นบ่อยครั้งเนื่องจากเริ่มมีการพาดพิงถึงการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ว่ายังมีการส่อแววทุจริตมาก ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่การกู้ครั้งนี้จะเกิดการทุจริตขึ้น พร้อมกันนี้ น.ส.รังสิมา ยังได้เปิดคลิปโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเนื่องจากน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น จนทำให้ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิง และขอให้ น.ส.รังสิมา อภิปรายอยู่ในกรอบ และต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นและประท้วงกันนานกว่า 20 นาที แต่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานในที่ประชุมในขณะนั้น ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ในการประชุมให้ราบรื่นได้ต่อไป "อัญชลี" ติงรัฐผลาญงบสร้างรถไฟสายเหนือไม่คุ้มทุนนางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการอภิปราย เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานหรือพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นการทิ้งมรดกบาปมูลค่าเป็นล้านล้านให้กับประชาชนในอนาคต โดยได้ตั้งข้อคำถามต่อรัฐบาลว่าโครงการต่างๆ ที่ออกมานั้น จะคุ้มค่าต่อประชาชนหรือไม่ เนื่องจากการสร้างรถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ นั้นจะเป็นการไม่คุ้มค่าเพราะเส้นทางดังกล่าวนั้นมีผู้โดยสารค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณผู้โดยสารจากสายการบิน ขณะที่ นางอานิก อัมระนันทน์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวโจมตีร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวว่านโยบายต่างๆ ที่ออกมา พร้อมกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ทำขึ้นเพื่อเป็นการตอบโจทย์ฐานเสียงของรัฐบาล โดยกล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายกับประชาชนที่เลือกรัฐบาล ทั้งๆ ที่ได้เคยมีการประกาศนโยบายต่างๆ เมื่อครั้งหาเสียงว่าจะเป็นการล้างหนี้ แต่สุดท้ายก็กลับมาสร้างหนี้เสียเอง อีกทั้งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่มีความน่าเชื่อถือและเป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน'จุติ' ชี้ กู้เงินเสี่ยงทุจริตมาก ใช้งบก่อสร้าง และที่ปรึกษาสูงนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายในการประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อการลงทุนพื้นฐานการขนส่งคมนาคม ซึ่งกล่าวว่า การกู้เงินดังกล่าว จะทำให้ประเทศไทย เกิดภาวะหนี้สินอย่างมาก โดยหนี้สินต่อครัวเรือนจะเพิ่มเป็น 100,347 บาท และการที่รัฐบาลชี้แจงว่าประเทศไทยมีภาวะหนี้สินไม่เกิน 50% ซึ่งถือว่าน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่นนั้น แต่กลับพบว่าประเทศญี่ปุ่นมีอัตราเงินออมของประชาชนมากถึง 50% ขณะที่ประเทศไทยมีเพียง 8% เท่านั้น จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ ทั้งนี้ นายจุติ กล่าวว่า การกู้เงินครั้งนี้ มีการเสี่ยงต่อการทุจริตอย่างมาก โดยสังเกตจากงบประมาณที่ใช้ในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งพบว่า มีการใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ขณะที่การก่อสร้างของต่างประเทศ ใช้เพียง 380 ล้านบาทต่อกิโลเมตร และค่าที่ปรึกษาของโครงการเฉพาะสายกรุงเทพมหานคร - เชียงใหม่ สูงถึง 7,000 ล้านบาท ขณะที่ของต่างประเทศใช้เพียง 120 ล้านบาท เท่านั้น 'ชัย' ชี้ รัฐบาลควรทำประชามติถามประชาชนก่อนนายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการลงทุนพัฒนาประเทศ แต่ขอแนะนำว่าให้กู้ครั้งละไม่มาก เพื่อไม่ให้ประเทศชาติและประชาชนรับภาระมากเกินไปในอนาคต พร้อมแสดงความเห็นว่า ควรทำประชามติเพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนก่อน ขณะเดียวกัน นายชัย ยังระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฉบับนี้อาจเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ด้วย และเมื่อมีคนยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และหากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายจะเสียเวลาในการอภิปรายโดยใช่เหตุ ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลพิจารณาในเรื่องนี้อย่างรอบคอบ'พายัพ' แจง รัฐไม่ใช้งบปกติ เกรงก่อสร้างไม่ต่อเนื่องบรรยากาศในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ชี้แจงยืนยันว่า การกู้เงินครั้งนี้จะไม่ทำให้ประเทศเสียหาย เพราะเป็นการกู้ภายในประเทศ จึงทำให้เม็ดเงินจากดอกเบี้ยยังคงไหลเวียนอยู่ภายในเศรษฐกิจของประเทศและฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะไม่มีคนให้กู้เงิน เนื่องจากผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้น ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ การที่รัฐบาลตัดสินใจไม่ใช้เงินจากงบประมาณประจำปีนั้น เป็นเพราะกังวลว่าการก่อสร้างโครงการนั้นจะไม่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากร่าง พ.ร.บ.นี้ผ่านไปได้ ประเทศไทยจะกลับมาเป็นศูนย์กลางและเป็นผู้นำของอาเซียนอีกครั้ง 'สุพัชรี' ย้ำพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ลล.เปิดช่องทุจริต น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศแต่ไม่เห็นด้วยกับหลักการร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ดังกล่าว เนื่องจาก ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินมาลงทุน ทั้งที่ สามารถเข้าสู่ระบบงบประมาณปกติได้ และไม่คุ้มค่า อีกทั้งยังส่อในการเปิดช่องให้มีการทุจริต อีกทั้งยังมีการบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบและส่วนตัวยังเชื่อว่า อีก 50 ปี ก็ไม่สามารถใช้หนี้ได้หมด อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวสงสัยว่า ถ้าอนาคต รัฐบาลพร้อมร่วมทุนกับภาคเอกชน จะกู้เงินมาลงทุนเพื่ออะไร 'สาทิตย์' เรียกร้องรัฐบาลทบทวนออก พ.ร.บ.เงินกู้ ให้รอบคอบนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยอภิปรายต่อต้านการกู้เงินดังกล่าว ซึ่งให้เหตุผลว่า การกู้เงินโดยการออก พ.ร.บ. ในอดีตเช่นปี 2496 ได้โดนครหาว่าเป็นทุนนิยมโดยรัฐ และไม่มีความโปร่งใส แต่ขณะนี้ รัฐบาลได้เลือกการออก พ.ร.บ. ที่มีการกู้เงินเป็นจำนวนมหาศาล ที่มากกว่าการกู้เงินด้วย พ.ร.บ.ในอดีตทั้งหมดรวมกัน จึงถือว่าเป็นทุนนิยมโดยรัฐ เป็นการลงทุนที่เสี่ยงต่อการทุจริตคอร์รัปชัน และที่ผ่านมา การออก พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก. ก็เพื่อกู้วิกฤติทางเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่ใช่กู้เงินมาเพื่อการลงทุนอย่างเช่นรัฐบาลนี้ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมทั้งนี้ นายสาทิตย์ ได้แสดงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากเอแบคโพล ที่พบว่า ประชาชนเป็นห่วงเรื่องการทุจริตมากที่สุดถึงร้อยละ 58 และการคุ้มค่าของโครงการร้อยละ 26 จึงต้องการให้รัฐบาลกลับไปทบทวนให้รอบคอบ ถึงการออก พ.ร.บ.เงินกู้ ครั้งนี้ 'ประเสริฐ' ยืนยัน ไม่มีคอร์รัปชั่นอย่างแน่นอนบรรยากาศการประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อการลงทุนพื้นฐานการขนส่งคมนาคม ขณะนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวชี้แจงในข้อสงสัยของทางฝ่ายค้านถึงโครงการก่อสร้างถนน โดยกล่าวว่า โครงการขยายถนน 4 เลน โครงการเชื่อมโยงถนนหัวเมืองของกรมทางหลวงได้ออกแบบเสร็จแล้ว ซึ่งมีความพร้อมและความโปร่งใสแน่นอน อีกทั้ง ได้ขอให้ฝ่ายค้าน มองว่า โครงการลงทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานขนส่งคมนาคมนั้น ไม่ใช่การสร้างถนนและเพิ่มระบบรางเพียงอย่างเดียวแต่จะช่วยพัฒนาในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ ด้านสาธารณสุข ที่หากพัฒนาการเดินทางให้มีความปลอดภัย จะช่วยให้ลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยคาดว่า จะช่วยลดการสูญเสียได้ถึงปีละ 1 แสนล้านบาท รวมถึงลดการใช้น้ำมันจากการเดินทางรถยนต์ ด้วยระบบราง ให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นทั้งนี้ ยังยืนยันว่า จะไม่มีการคอร์รัปชั่นอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง เพื่อเข้าถึงประชาชนรากหญ้าตามแนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จากอดีตเคยทำโครงการต่างๆ เพื่อให้ลดการเหลื่อมล้ำทางสังคม