DSIเรียกเลขาฯสพฐ. แจงขั้นตอนสอบครูหาคนเอี่ยวทุจริต
นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีเชิญ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ถ้อยคำในคดีทุจริตการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย สอบในวันนี้ ว่า ประเด็นที่จะมีการสอบถาม เป็นเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกจากส่วนกลาง จนถึงกระบวนการสอบตั้งแต่ต้น ว่าการการวางมาตรการอย่างไร เนื่องจากหลักฐานที่มีในขณะนี้ ยังไม่เพียงพอ ต้องให้ผู้รับผิดชอบระดับสูงมาชี้แจง เพื่อที่จะได้ระบุได้ว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนใดที่มีความผิด จึงทราบว่าใครเป็นผู้ให้ดำเนินการในลักษณะนี้ มีการเปลี่ยนแปลงผิดพลาดในจุดใด โดยจะสอบระดับผู้บริหารใน สพฐ. ไปจนถึงระดับผู้ที่ออกข้อสอบรวมประมาณ 10 คน ควบคู่ไปพร้อมกับอีกชุดที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลตัวเจ้าหน้าที่ และผู้กระทำผิดการเข้าสอบแทน และต้องสอบผู้สอบอีก 400 กว่าคน ที่คะแนนสูงผิดปกติ ส่วนจะแจ้งข้อหาใครนั้น ต้องนำข้อมูลทั้ง 2 ส่วนมาประเมินร่วมกัน ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งนี้ ในวันที่ 3 เม.ย. ดีเอสไอจะเรียก นายอนันต์ ระงับทุกข์ รองเลขาธิการ สพฐ. เข้าพบ และวันที่ 4 เม.ย. นายไกร เกษทัน ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ เข้าสอบต่อไป โดยประเด็นที่จะซักถาม คือ ความเป็นมาในการจัดสอบครูผู้ช่วย รวมถึง ขั้นตอนการจัดสอบตั้งแต่ต้นไปจนถึงการประกาศผลสอบ เลขา สพฐ. ยันพบดีเอสไอวันนี้แน่-ไม่กังวล หากถูกเด้งนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. กล่าวกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในวันนี้ เวลาประมาณ 09.30 น. จะเดินทางไปชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในเรื่องคดีการทุจริตสอบบบรรจุครูผู้ช่วย โดยจะชี้แจงใน 4 ประเด็น จากทั้งหมด 7 ประเด็น ที่ ดีเอสไอ ชี้มูลว่า ส่อเค้ามีการทุจริตเกิดขึ้น โดยทั้ง 4 ประเด็นที่จะชี้แจงคือ ประเด็นแรก การเปลี่ยนหลักเกณฑ์ในการสอบคัดเลือกจากให้เขตพื้นที่ดำเนินการมาให้ทางส่วนกลางทำแทน ประเด็นที่ 2 คือ การจ้างบริษัทเอกชนส่งข้อสอบ ประเด็นที่ 3 คือการให้ไปรษณีย์ ส่งข้อสอบแทนที่จะมารับที่ส่วนกลาง และประเด็นสุดท้ายคือ คือการเฉลยข้อสอบ เมื่อวันที่ 12 ม.ค.เลขา สพฐ. กล่าวอีกว่า ในการยกเลิกผลการสอบในครั้งนี้นั้น สพฐ. ไม่มีอำนาจในการยกเลิกตามกฎหมายได้ เป็นอำนาจของคณะกรรมการข้าราชการครู ทำให้หลายคนคลางแคลงใจว่า ทำไม สพฐ. ไม่ยกเลิกหรือออะไรเลย ซึ่งเรื่องนี้ก็จะชี้แจงกับดีเอสไอ เพิ่มเติมด้วย ส่วนกรณีที่ว่า มีกระแสข่าว อาจมีการโยกย้ายผู้บริหารใน สพฐ. หรืออาจจะเป็นตนเองนั้น ไม่กังวลใจ หรือหนักใจแต่อย่างใด เพราะต้องดูตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา