กฟผ.สำรองไฟพอ ไม่ห่วงเอกชนเร่งผลิต 9-10 เม.ย.

ผู้ว่าฯ กฟผ. ย้ำ สำรองไฟมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ ไม่ห่วงเอกชน เร่งเดินเครื่องผลิต 9 - 10 เมษายน ด้าน "พงษ์ศักดิ์" เตรียมแถลง สถานการณ์พลังงาน บ่ายนี้

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า กฟผ. มีความพร้อมรับมือในช่วงที่พม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศไทย ระหว่างวันนี้ถึง 14 เม.ย. 56 เนื่องจากมีการประสานงานขอซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน รวมทั้งขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นผู้ที่ใช้ไฟรายใหญ่ให้รวมกันประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะวันที่ 5 เม.ย.นั้น มีกำลังผลิตสำรองไฟฟ้าประมาณ 1,600 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดได้

ส่วนวันที่ 9-10 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ภาคอุตสาหกรรมบางส่วนจะเดินเครื่องกำลังผลิต หลังจากหยุดผลิตสินค้า ในวันที่ 5 เม.ย. ก็มีไฟสำรองในระบบประมาณ 1,400 เมกะวัตต์ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน และมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนร่วมมือกันประหยัดพลังงาน เพื่อให้มีปริมาณไฟฟ้าสำรองเพิ่มมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เวลา 15.00 น. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะแถลงข่าวสถานการณ์พลังงาน ช่วงพม่าหยุดจ่ายก๊าซให้ประเทศไทย ณ สำนักงานกลาง กฟผ. บางกรวย จ.นนทบุรี

พม่าหยุดส่งก๊าซกฟผ.เขื่อนภูมิพลพร้อมรับมือ

จากการที่ ประเทศพม่า จะหยุดจ่ายก๊าซเพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซม ซึ่งจะมีผลต่อระบบไฟฟ้าทั่วประเทศ ทั้ง 2 ฝั่งนั้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก แจ้งว่า ทาง กฟผ.เขื่อนภูมิพล มีความพร้อมตามนโยบายของกระทรวงพลังงานในการรองรับสถานการณ์ไฟฟ้าช่วงที่อาจเกิดวิกฤติ หากพม่าหยุดจ่ายก๊าซระหว่างวันนี้ ถึง 14 เมษายน 2556 เพื่อที่จะซ่อมแซมท่อก๊าซที่ชำรุดเสียหาย โดยเขื่อนภูมิพลระบายน้ำตามแผนวันละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร กระแสไฟฟ้าที่ได้จากการระบายน้ำจะถูกส่งไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูง ในความรับผิดชอบ 4 สถานี ที่จังหวัดตากฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก 2 สถานี จังหวัดสุโขทัยและอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง รวมกัน 1 สถานี และที่จังหวัดนครสวรรค์อีก 1 สถานี โดยสถานีไฟฟ้าดังกล่าว จะทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบตามความต้องการ

อย่างไรก็ตาม หากเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ในช่วงที่พม่าหยุดจ่ายก๊าซ เขื่อนภูมิพล ก็พร้อมระบายน้ำเพิ่มตามคำสั่ง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่อยู่ ณ เวลานี้ จะสามารถกระแสไฟฟ้าได้เต็มที่ไม่เกิน 307 เมกะวัตต์ โดย กฟผ.เขื่อนภูมิพล ยืนยัน จะปฏิบัติภารกิจในช่วงที่เกิดวิกฤติไฟฟ้า โดยจะจัดการระบบจำหน่ายให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ