ดีเอสไอเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตยาพาราฝั่งธนฯ

ดีเอสไอเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตยาพาราฝั่งธนฯ

ดีเอสไอเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตยาพาราฝั่งธนฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 และกระทรวงสาธารณสุข นำสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บยาพาราเซตามอล ขององค์การเภสัชกรรม ในเขตราษฎร์บูรณะ หลังจากที่ นายกมล บันไดเพชร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้ายื่นหนังสือต่อดีเอสไอ ขอให้ตรวจสอบการทุจริตการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ล่าช้า ที่ อ.ทับกวาง จ.สระบุรี และการจัดซื้อวัตถุดิบที่ใช้ผลิตยาพาราเซตามอล ขององค์การเภสัชกรรม ว่า อาจมีวัตถุดิบบางส่วนมีการปนเปื้อน และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของยาทั้งนี้ นายธานินทร์ ได้กล่าวก่อนการเข้าตรวจสอบโกดังว่า จะเน้นตรวจสอบการจัดเก็บวัตถุดิบว่า มีการจัดเก็บถูกต้องตามหลักวิชาการ และมีโอกาสปนเปื้อนหรือไม่ โดยเบื้องต้นพบว่า มียาพาราเซตามอล ถูกจับเก็บในโกดัง 48 ตัน โดยในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ทางองค์การเภสัชกรรม ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน รวมทั้งบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปภายในคลังสินค้า ล่าสุดนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวภายหลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 และกระทรวงสาธารณสุข นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บยาพาราเซตามอล ขององค์การเภสัชกรรม ในเขตราษฎร์บูรณะ ว่า จากการเข้าตรวจสอบพบว่าการจัดเก็บวัตถุดิบในการผลิตยาพาราเซตามอล มีความถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้งด้านอุณหภูมิในการจัดเก็บ รวมทั้งวันหมดอายุ จึงเชื่อได้ว่ายาล็อตดังกล่าวจำนวน 48 ตัน เป็นยาที่มีคุณภาพขณะที่ในส่วนของวัตถุผลิตยาพาราเซตามอลอีก 100 ตัน ได้จัดส่งให้องค์การเภสัชกรรมทหารตรวจสอบแล้ว ซึ่งพบว่ามีเพียง 500 กิโลกรัม ที่มีการปนเปื้อน และไม่มีการจำหน่ายยาที่ปนเปื้อนออกสู่ท้องตลาด แต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางบริษัทผู้ผลิตจะมารับวัตถุดิบยาทั้งหมด 148 ตัน คืนภายใน 2 สัปดาห์นอกจากนี้ นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ได้กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในขบวนการผลิตและจัดเก็บยาว่าได้มาตรฐานสากล เนื่องจากก่อนที่จะมีการจัดซื้อ ได้มีตรวจเยี่ยมโรงงานผู้ผลิตวัตถุดิบในต่างประเทศแล้ว ส่วนยาที่ปนเปื้อนนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกบริษัท แต่ก็มีการตรวจสอบ พร้อมระบุอีกว่ายาพาราเซตามอล จะไม่ขาดตลาดอย่างแน่นอน เพราะยาทั้ง 148 ตัน เป็นยาที่ได้สำรองไว้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook