จากเสือร้องไห้ สู่พยัคฆ์ร้าย

ฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยในประเทศ พวกเขาพลาดท่าให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทั้งสองรายการ ส่วนในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งที่อุตส่าห์เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แถมยังเป็นการเล่นใน อัลลิอันซ์ อารีน่า บ้านของตัวเอง

แต่พวกเขากลับต้องพ่ายให้กับ เชลซี ในการดวลลูกโทษ ทั้งๆ ที่ เล่นได้ดีกว่าทีมจากเกาะอังกฤษแบบชัดเจน เป็นการตอกย้ำความเจ็บปวดในฤดูกาลอันสุดแสนจะขมขื่น

 

 

 

ในฤดูกาลนี้ บาเยิร์น จึงมาแบบเน้นเป็นพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบฤดูกาลก่อนขึ้นมาอีก พวกเขามีการเสริมทัพ ในจุดที่ควรเพิ่ม ทั้ง ฆาบี มาร์ติเนซ, เชอร์ดาน ชาคิรี่, มาริโอ มานด์ซูคิช, ดานเต้ และอีกหลายๆ ตำแหน่ง เพื่อให้ขุมกำลังของพวกเขาแน่นปึ้กทั้งตัวจริงและตัวสำรอง

 

ว่ากันว่าตอนนี้ บาเยิร์น คือหนึ่งในทีมที่มีขุมกำลังที่ดีที่สุดของทวีปยุโรปเลยก็่ได้ ต่อให้ผู้เล่นคนไหนเจ็บ ก็มีตัวทดแทน อย่างในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ไล่ถล่มยูเวนตุส โทนี่ โครส เจ็บ ก็เป็นอาร์เยน ร็อบเบน ลงมา และทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกต่างหาก

 

จากการเสริมทัพที่เข้าตา จากความมุ่งมั่นที่กระหายจะมาทวงความยิ่งใหญ่ ผลก็คือ "เสือใต้" แทบจะกลายเป็นทีมที่ไร้เทียมทานในฤดูกาลนี้ไปแล้ว และล่าสุดก็เพิ่งทำสถิติคว้าแชมป์บุนเดสลีกา คว้าแชมป์บุนเดสลีกา ตั้งแต่ไก่โห่ ด้วยการเอาชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 1-0 เมื่อคืนวันเสาร์ ทำให้แต้มทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป 20 แต้ม ในขณะที่เหลือการแข่งอีก 6 นัด

 

ในฤดูกาลนี้ บาเยิร์น มิวนิค จ่อทำสถิติมากมาย ในวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ไม่ว่าจะเป็นการชนะมากที่สุดใน 1 ฤดูกาล ที่ ดอร์ทมุนด์ ทำเอาไว้ 25 นัด ซึ่งน่าจะโดน ทีม"เสือใตh" ทำลายในไม่ช้า เพราะว่าตอนนี้ ชนะมาแล้ว 24 นัด

 

 

 

สถิติเสียประตูน้อยที่สุดใน 1 ฤดูกาล พวกเขาก็น่าจะทำลายไปได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะว่าตอนนี้เสียไปเพียงแค่ 13 ประตู ซึ่งสถิติที่เสียน้อยที่สุด พวกเขาเคยทำเอาไว้ในยุคที่มี โอลิเวอร์ คาห์น ยืนเฝ้าเสา ที่ 21 ประตู 

 

ในขณะที่สถิติยิงเยอะที่สุดต่อ 1 ซีซั่นนั้นอาจจะยากน้อย เพราะว่า ในยุคที่มี แกร์ด มุลเลอร์ เป็นดาวยิงนั้น ทำเอาไว้สูงถึง 101 ประตู ซึ่งทีมชุดนี้อยู่ห่างจากเป้าหมายนั้นถึง 22 ประตู ในขณะที่เกมการแข่งขันเหลืออีก 6 เกมซึ่งจะว่ายากก็ยาก แต่จะให้บอกว่าไม่มีโอกาสเลยก็คงไม่ได้

 

จากการคว้าแชมป์ในคราวนี้ ทำให้ บาเยิร์น ปิดจ๊อบ ไป 1 รายการ และทำให้พวกเขาสามารถไปเน้นกับเกมฟุตบอลถ้วยได้แบบเต็มเหยียด เพราะว่ายังเหลืออีก 2 รายการให้ลุ้น ทั้งในศึกเดเอฟเอ โพคาล และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก