เรือใบเข้าชิง! เฉือนชนะ เชลซี 2-1 ศึก เอฟเอ คัพ

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2012-13

วัน อาทิตย์ ที่ 14 เมษายน 2556


เชลซี 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : เวมบลีย์

ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย

 

 

 

เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิช ทำผลงานในรายการเอฟเอ คัพ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะรอบก่อนรอนะเลิศ ที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 จากประตูชัยของ เดมบา บา หัวหอกเซเนกัล

ขณะที่ผลงานนัดล่าสุดลงเล่นยูโรปา ลีก แพ้ รูบิน คาซาน 2-3 แต่เข้ารอบตัดเชือก 5-4

สภาพทีมจะยังไม่มี แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษที่บาดเจ็บ ดังนั้น ไรอัน เบอร์ทรานด์ จะลงเล่นแทน แกรี่ เคฮิลล์ กองหลังบาดเจ็บ 2 สัปดาห์

ขณะที่บรรดาตัวสำรองที่เล่นเกมยูโรปา อย่าง เปาโล แฟร์ไรร่า, นาธาน เอเค่, วิคเตอร์ โมเซส รวมถึง จอห์น เทอร์รี่ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะกลับไปนั่งสำรองทั้งหมด พร้อมส่งตัวจริงอย่าง ฆวน มาต้า, เอแด็น อาซาร์, ออสการ์ และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลงแทน

ฝั่ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของกุนซือชาวอิตาเลียน โรแบร์โต้ มันชินี่ รอบก่อนหน้านี้เปิดบ้านถล่มชนะ บาร์นสลี่ย์ ทีมจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ 5-0

ขณะที่ผลงานในล่าสุดลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แถมโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมบุกชนะ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1

สภาพทีมล่าสุดยังคงไม่มี ไมค่อน แบ็กขวา และ แจ็ค ร็อดเวลล์ กองกลาง ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่ข่าวดีคือจะได้ เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอกตัวอันตรายกลับมาเป็นตัวจริง หลังหายเจ็บข้อเท้า และลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมล่าสุด แถมยิงประตูชัยใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกด้วย

ส่วนในรายของ ดาบิด ซิลบา กองกลางตัวรุกต้องเช็คฟิต ถ้าไม่ไหว ซามีร์ นาสรี่ ดาวเตะเฟร้นช์แมนจะลงเล่นแทน

เรื่มครึ่งแรก เพียง 6 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสทำประตู จากจังหวะ ยาย่า ตูเร่ ยิงบอลกลางประตู บอลไหลมาเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ จิ้มบอลเข้ากรอบแต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังป้องกันไว้ได้

นาทีที่ 10 ทีมเรือใบ ยิ่งเล่นยิ่งดี แกเร็ธ แบร์รี่ จ่ายบอลให้ คาร์ลอส เตเวซ หลอกยิงบอลเสาแรกบอลพุ่งเข้ามุมแคบ แต่ ปีเตอร์ เช็ก ทุบบอล ออกหลังไปได้

นาทีที่ 24 เชลซี น่าจะได้ประตูสุดๆจากจังหวะฟรีคิกบอลมาเข้าทาง เอแด็น ฮาซาร์ด ซัดบอลกระดอนเข้ากรอบเขตโทษแต่ แวงซ็องต์ ก็อมปานี โหม่งสกัดบอลออกไปได้บนเส้น

นาทีที่ 35  แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ เชลซี 1-0 จากจังหวะ ยาย่า ตูเร่ ลากบอลทางด้านขวาผ่านบอลให้ ซาเมียร์ นาสรี่ ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนซัดบอลผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าประตูไป

ช่วงทดเวลา เป็นฝั่ง เรือใบสีฟ้า ที่ทำเกมบุกแต่ไม่ผ่านแนวรับ เชลซี จบครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ เชลซี 1-0

เริ่มครึ่งหลัง เพียง 2 นาที แมนฯซิตี้ ขึ้นห่าง เชลซี 2-0 จังหวะ แกเร็ธ แบร์รี่ ผ่านบอลเข้ากรอบเขตโทษบอลย้อยเข้าหัว เซอร์คิโอ อากูเอโร่ เทกตวโหม่งบอลย้อยสวนตัว ปีเตอร์ เช็ก เข้าประตูไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 64 เชลซี เปลี่ยนตัวส่ง เฟอร์นันโด ตอร์เรส ลงมาแทน จอห์น โอบี มิเกล

นาทีต่อมา เชลซี ตีตื้นขึ้นมา 1-2 จากจังหวะที่  ดาวิด หลุยส์ วางบอลยาวจากครึ่งสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เด็มบ้า บา ตวัดซัดบอลสวนทาง คอสเตล พานติลิมัน เข้าไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 73 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัวส่ง ฆาบี การ์เซีย ลงมาแทน คาร์ลอส เตเบซ

นาทีที่ 79 เชลซี ที่บุกอย่างหนัก มีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะฟรีคืกของ ดาวิด หลุยส์ ปั้นบอลด้วยเท้าขวาบอลโค้งหลุดกรอบด้านซ้ายออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 87 เรือใบสีฟ้า เปลี่ยนตัวส่ง โจเลออน เลสค็อตต์ ลงมาแทน ซาเมียร์ นาสรี่

ช่วงทดเวลา เป็นฝั่งเชลซี ที่พยายามบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูแต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาดพอ จบเกม แมนฯซิตี้ เฉือนชนะ เชลซี 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เชลซี : ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า,รานิสลาฟ อิวาโนวิช,ดาวิด หลุยส์,ไรอัน เบอร์ทรานด์
กองกลาง : จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส, ฆวน มาต้า, ออสการ์, เอแด็น ฮาซาร์ด
กองหน้า : เด็มบ้า บา

แมนฯซิตี้ : ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : คอสเตล พานติลิมัน
กองหลัง : ปาโบล ซาบาเลต้า,มาติย่า นาสตาซิช,แวงซ็องต์ ก็อมปานี,กาเอล กลิชี่
กองกลาง : แกเร็ธ แบร์รี่,ยาย่า ตูเร่, เจมส์ มิลเนอร์,คาร์ลอส เตเบซ ,ซาเมียร์ นาสรี่
กองหน้า : เซอร์คิโอ อากูเอโร่

เชลซี 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้