บึ้มงานวิ่งบอสตันสหรัฐ2ลูกซ้อนดับแล้ว2เจ็บกว่า100
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดระเบิดขึ้น 3ครั้ง ในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐ โดย 2 ลูก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.40 น.ตามเวลาประเทศไทย บริเวณเส้นชัยของการแข่งขัน บอสตัน มาราธอน รายการแข่งขันที่เก่าแก่ของสหรัฐ และเวลาประมาณ 04.00 น. เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 จุด ในห้องสมุด JFK โดยระเบิดทั้ง 3 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อาการสาหัสขณะที่ หน่วยข่าวกรองสหรัฐ รายงานว่า พบระเบิดอีกหลายจุดแต่ยังไม่จุดชนวน ทั้งนี้ทำให้ทั้งผู้ชม, เจ้าหน้าที่และนักกีฬา ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวไปรักษาเบื้องต้นที่เต็นท์ปฐมพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องส่งสัญญาณให้นักวิ่งอื่น ๆ ที่ตามหลังมา หลีกเลี่ยงวิ่งไปในเส้นทางอื่นแทนหลังเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มควันปกคลุมไปทั่วบริเวณดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็มีกองเลือดมากมายบนท้องถนน ในย่านช็อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ออกมากล่าวว่าได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าไปในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่และได้สั่งให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุและผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด พร้อมกับกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อผู้ชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บด้าน รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวในการประชุมฉุกเฉินผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดใด ๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้น ในตอนนี้ แต่ขอไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบ เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและจะหาสาเหตุและผู้ก่อเหตุมาให้ได้ ตาลีบันแถลงไม่เอี่ยวบึ้มบอสตันสำนักข่าวเอพี รายงานว่า กลุ่มนักรบตาลีบัน ในปากีสถาน ซึ่งอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุวินาศกรรมระเบิดกลางไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ เมื่อ 3 ปีก่อน ออกมาปฏิเสธ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการลอบวางระเบิดบอสตัน มาราธอน รายงานระบุว่า นายเอห์ซานุลเลาะห์ เอห์ซาน โฆษกกลุ่มตาลีบัน ปากีสถาน (ทีทีพี) ได้แถลงว่า แม้กลุ่มจะมีจุดยืน ในการมุ่งโจมตี สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของชาวอเมริกัน และประเทศพันธมิตร แต่เหตุระเบิดที่บอสตัน ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มตาลีบันอย่างแน่นอนทั้งนี้ กลุ่มตาลีบัน ยอมรับว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ ไทม์สแควร์ ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2553 แต่ปฏิเสธ ไม่ได้เป็นผู้ฝึกการลอบวางระเบิด และว่าจ้างผู้ต้องหาที่ทางการสหรัฐ จับกุมได้ และตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ผบ.ตร.เข้มสถานทูตหลังบึ้มบอสตันพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง เหตุระเบิดที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า หลังเกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. ได้ติดตามการข่าว ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ของคืนที่ผ่านมา สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาประชุมร่วมกัน พร้อมยืนยัน ประเทศไทย ยังไม่มีการข่าวอะไรที่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ สตช. ได้เปิดวอร์รูมติดตามการข่าวทุกระยะ โดยมีเจ้าหน้าที่กองการต่างประเทศ สันติบาล และตรวจคนเข้าเมือง ประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ตลอดเวลาเบื้องต้น สถานทูตสหรัฐอเมริกา ยังไม่มีการร้องขอกำลัง หรือ การดูแลเพิ่มเติมกว่าปกติ ยังอยู่ในแผนที่ตำรวจท้องที่ สน.ลุมพินี บก.น.5 และสันติบาล ดูแลอยู่ได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มในการเข้าตรวจสอบ พร้อมเชิญตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูต มาร่วมประชุม รับฟังการเตรียมพร้อมของตำรวจด้วย ซึ่งทางสหรัฐ พอใจการเตรียมข้อมูล และระบบการทำงานของตำรวจไทย และยังไม่ขอกำลังจุดใดเป็นพิเศษ นายกฯ สั่งดูคนไทยในบอสตันหลังเกิดบึ้มน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจต่อเหตุระเบิด 2 ครั้ง ในการแข่งวิ่งมาราธอนที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 144 คน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ในขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยฝ่ายความมั่นคงได้ประชุมเพื่อวางมาตรการในการดูแลคนไทยและนักท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยที่จะเพิ่มมาตรการดูแลประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากขึ้นด้วย